คิงเพาเวอร์-เซ็นทรัล-โกลเด้นเพลซ เปิดพื้นที่ให้สินค้าทำจากข้าววางขาย

“พาณิชย์” ดันสินค้านวัตกรรมจากข้าวทั้งที่เป็นอาหารและไม่ใช่อาหาร เข้าไปวางจำหน่ายใน “คิงเพาเวอร์-เซ็นทรัล-โกลเด้นเพลซ” หลังผู้ประกอบการพร้อมเปิดพื้นที่ให้ คาดช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้ผู้ผลิต และทำให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศรู้จักสินค้าที่ทำจากข้าวมากขึ้น

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้หารือร่วมกับบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลอดภาษีคิง เพาเวอร์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้นำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต และบริษัท สุวรรณชาด จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลีกโกลเด้น เพลซ ในการเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้แก่ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าวไทย โดยผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย พร้อมที่จะเปิดพื้นที่ให้กับกรมฯ ในการคัดเลือกผู้ผลิตสินค้านวัตกรรมจากข้าวนำสินค้าที่ผลิตได้ไปวางจำหน่ายในพื้นที่ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการกับโกลเด้นเพลซประมาณเดือน ก.พ. 2561 และจากนั้นจะร่วมกับคิง เพาเวอร์ และเซ็นทรัลต่อไป ซึ่งหากสินค้าใดขายดี ทางผู้ประกอบการก็พร้อมที่จะนำไปจำหน่ายให้อย่างถาวรด้วย

สำหรับสินค้าที่จะนำไปทดลองจำหน่าย มีทั้งที่เป็นอาหารและไม่ใช่อาหาร เช่น ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มที่ทำจากข้าว ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร น้ำมันรำข้าว เครื่องสำอาง คอสเมติก แชมพู ผงล้างหน้า แผ่นปิดแผล เป็นต้น โดยกรมฯ มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้สินค้านวัตกรรมจากข้าวเป็นที่รู้จัก และเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยโกลเด้น เพลซ จะเป็นการจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในประเทศเป็นหลัก ส่วนเซ็นทรัล ก็มีสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่คิง เพาเวอร์ เป็นการเปิดตัวสินค้าออกสู่สายตาของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ

ส่วนการเพิ่มช่องทางการส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ กรมฯ มีแผนที่จะจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ เบื้องต้นจะเน้นประเทศในกลุ่ม CLMV เพราะอยู่ใกล้ ซึ่งน่าจะเปิดตลาดได้ไม่ยาก และมีแผนที่จะนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเปิดตัวสินค้าไทย ส่วนการส่งเสริมให้มีการส่งออก ล่าสุดได้นำผู้ประกอบการไปร่วมเจรจาธุรกิจสามารถผลักดันให้ส่งออกไปขายต่างประเทศได้กว่า 100 ล้านบาท

นายอดุลย์กล่าวว่า กรมฯ ยังได้จัดการประกวดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าวไทย เพื่อผลักดันให้มีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าวไทย ทั้งที่เป็นอาหารและไม่ใช่อาหารมีโอกาสเข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์เพิ่มมากขึ้น โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการไทย นักวิจัย กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหรือสนับสนุนด้านนวัตกรรมในประเทศส่งผลงานเข้าประกวด และการประกวดสูตรอาหารนานาชาติปรุงจากข้าวไทย ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะข้าวหอมมะลิ เปิดโอกาสให้ทุกสายพันธุ์ข้าว เพื่อเผยแพร่ความหลากหลายของสายพันธุ์ข้าวไทย โดยเปิดโอกาสให้เซฟ บุคลากรด้านอาหาร โรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร สถาบันสอนทำอาหาร นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปทั้งในและต่างประเทศส่งผลงานเข้าประกวด ซึ่งได้เปิดรับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 28 ก.พ. 2561