“พาณิชย์”ทำจริง ปลดร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ 7 แห่งพ้นโครงการ หลังตรวจเจอรวมชุดขาย นำเครื่องรูดบัตรไปรูดร้านอื่น และขายเกินราคา ลั่นตรวจต่อ เจออีกปลดอีก เผยล่าสุดมีร้านติดตั้งเครื่องรูดบัตรแล้ว 1.2 หมื่นแห่ง สิ้นพ.ย.นี้ครบตามเป้า 1.8 หมื่นแห่ง ระบุเฟส 2 เตรียมนำสินค้าชุมชน สินค้าโอทอปเข้ามาจำหน่าย
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ตรวจสอบการดำเนินการของร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ตามที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และจากการตรวจสอบพบว่ามีร้านค้ากระทำความผิดจริง ซึ่งได้ถอดถอนออกจากการร่วมโครงการแล้วจำนวน 7 แห่ง โดยร้านเหล่านี้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งการรวมชุดสินค้า มีการนำเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) ไปใช้ผิดประเภทด้วยการนำเครื่องรูดบัตรภายในร้านไปใช้ในร้านพื้นที่อื่น มีการขายสินค้าราคาเกินกว่าที่กำหนด และบางร้านถูกปรับ เพราะไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า
สำหรับความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องรูดบัตร ล่าสุดสามารถติดตั้งได้แล้ว 1.2 หมื่นแห่ง โดยได้พยายามผลักดันให้มีการติดตั้งเพิ่มอีก 6 พันแห่ง เพื่อผลักดันให้ครบ 1.8 แห่ง ตามเป้าหมายภายในสิ้นเดือนพ.ย.2560 นี้ เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถใช้ซื้อสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และเมื่อติดตั้งครบแล้ว ก็จะตรวจสอบว่า มีความครอบคลุมทุกพื้นที่แล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ครอบคลุมก็จะจัดส่งรถโมบายธงฟ้านำสินค้าเข้าไปจำหน่าย โดยล่าสุดมีรถประมาณ 96 คัน ซึ่งขณะนี้ก็วิ่งอยู่ แต่ต่อไปจะวิ่งเข้าไปยังพื้นที่ๆ ไม่มีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐตั้งอยู่ให้มากขึ้น
“ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา เริ่มจากมีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ได้รับการติดตั้งเครื่องรูดบัตร ตั้งแต่ 5 พันร้านมาจนวันนี้มี 1.2 หมื่นร้าน สามารถให้บริการประชาชนได้ 10 ล้านคนทั่วประเทศ มียอดใช้จ่าย 2,700 ล้านบาท คิดเป็น 80% ของวงเงินในบัตรที่รัฐบาลให้กับผู้มีรายได้น้อย และสิ้นพ.ย.นี้ น่าจะมียอดใช้จ่ายถึง 5,400-5,500 ล้านบาท ส่วนการครอบคลุมของร้านค้า ยังไม่สะดวกมากนัก แต่เดือนที่ 2 จะดีขึ้น เพราะจะมีร้านถึง 1.8 หมื่นร้าน และมีรถโมบายเข้าไปเสริม”นายสนธิรัตน์กล่าว
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเดินหน้าโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐในระยะสอง (เฟส 2) โดยจะผลักดันสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป เข้าไปขายในร้านธงฟ้าประชารัฐ ล่าสุดได้ประสานความร่วมมือกับธนาคารของรัฐในการให้สินเชื่อกับผู้ผลิต ดึงบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาค้ำประกัน และให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เข้ามาช่วยสนับสนุน โดยในแต่ละพื้นที่พาณิชย์จังหวัดจะเข้าไปดูแลคัดเลือกสินค้า และดึงแบงก์เข้ามาให้สินเชื่อกับผู้ผลิต ตลอดจนการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในร้านค้า