“พาณิชย์” เตรียมส่งสายตรวจออกตรวจสอบราคาสินค้าผัก ผลไม้ วัตถุดิบอาหารเจ และอาหารเจ ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด ช่วงก่อนและช่วงเทศกาลกินเจ หวังป้องกันพ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภค เผย ยังได้ประสานตลาดกลางช่วยกระจายสินค้าให้ทั่วถึง และเร่งโปรโมตบริโภคผักอินทรีย์ ช่วยคนไทยสุขภาพดี แถมช่วยเกษตรกรผู้ปลูก
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะจัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยในกรุงเทพฯ มีจำนวน 9 สาย ตรวจสอบในพื้นที่ 50 เขต ส่วนในต่างจังหวัดได้มอบหมายให้ค้าภายในจังหวัดทำงาน ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดในการออกตรวจสอบ โดยจะดำเนินการในช่วงก่อนเทศกาลกินเจ วันที่ 17 - 19 ต.ค. 2560 และช่วงเทศกาลกินเจ 20 - 28 ต.ค. 2560 ซึ่งจะมีการตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้า แนวโน้มราคา และปริมาณสินค้าว่ามีเพียงพอหรือไม่ รวมทั้งการตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคาและเครื่องชั่ง
“กรมฯ ได้เตรียมความพร้อมในการตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าช่วงเทศกาลกินเจ โดยมีแผนที่จะดูแลราคาสินค้าผัก ผลไม้ และวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้สำหรับทำอาหารเจ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาจำหน่ายวัตถุดิบ หรือปรับราคาจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จประเภทเจ จนทำให้ประชาชนที่กินเจได้รับผลกระทบจากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น”
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า สำหรับแผนการรับมือความต้องการบริโภคผัก ผลไม้ และวัตถุดิบอาหารเจที่สูงขึ้นนั้น กรมฯ ได้ประสานความร่วมมือไปยังตลาดกลางสินค้าเกษตรที่อยู่ในความส่งเสริมของกรมฯ ให้เปิดโอกาสให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร นำผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่ายในตลาดกลาง และช่วยกระจายสินค้าให้ทั่วถึงทุกภูมิภาค และยังมีแผนเชื่อมโยงสินค้าจากแหล่งผลิตกระจายไปยังตลาดปลายทางต่างๆ ทั้งตลาดกลาง และ ฟาร์มเอาต์เล็ต เป็นต้น
“ปีนี้ กรมฯ จะรณรงค์ให้ประชาชนหันมาบริโภคผักอินทรีย์ให้มากขึ้น เพราะกรมฯ ได้เข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกผักอินทรีย์ เพื่อป้อนความต้องการของตลาด ซึ่งการบริโภคผักอินทรีย์ ไม่เพียงแต่ช่วยให้มีสุขภาพดี แต่ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายเกษตรอินทรีย์ของกระทรวงพาณิชย์ และยังช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกมีรายได้สูงขึ้น” นายบุณยฤทธิ์ กล่าว
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า แนวโน้มราคาผักขณะนี้ ส่วนใหญ่ทรงตัวเท่ากับปีก่อน ทั้งผักบุ้งจีน ผักกวางตุ้ง ผักกาดขาวปลี กะหล่ำปลี มะระจีน ถั่วฝักยาว และ ฟักเขียว เพราะแหล่งผลิตในทุกภูมิภาคไม่มีปัญหาด้านการผลิต ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดต่อเนื่อง โดยแนวโน้มราคาอาจจะปรับตัวสูงขึ้นบ้างในช่วงก่อนเทศกาลกินเจ 1 - 2 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่คนสำรองวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารเจ แต่หลังจากนั้น ราคาจะปรับตัวลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ โดยกรมฯ มั่นใจว่าปีนี้ ผักจะไม่มีปัญหาด้านราคา
ส่วนราคาเนื้อสุกร ที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม ทำให้ความต้องการใช้เนื้อสุกรไปประกอบอาหารของโรงเรียนต่างๆ ลดลง และยังใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ ทำให้ความต้องการลดลงไปด้วย ไม่ได้มีผลมาจากข่าวที่ว่าไทยจะนำเข้าเนื้อสุกรและเครื่องในที่มีสารเร่งเนื้อแดงจากสหรัฐฯ เพราะจนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้อนุญาตให้มีการนำเข้า เป็นคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวกัน แต่เป็นเพราะปัจจัยภายในประเทศ