xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” เผยมีสินค้า 166 รายการ พร้อมจำหน่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สนธิรัตน์” เผยผู้ผลิตยื่นรายการสินค้าเพื่อจำหน่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐล่าสุด 166 รายการ ส่วนร้านค้าสมัครเข้ามา 18,000 แห่งแล้ว เร่งส่งรายชื่อให้คลังติดตั้งเครื่องรูดบัตร ตั้งเป้า 1 ต.ค. ร้านค้าใน 8,000 ตำบลพร้อมเปิดให้บริการ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ผลิตสินค้าได้ยื่นรายการสินค้าเพื่อเข้าร่วมจำหน่ายในโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐรวมทั้งหมด 29 สินค้า 166 รายการ แบ่งเป็นผู้ผลิตที่เข้าร่วมเดิม 48 รายการ และได้เพิ่มเติมรายการสินค้าใหม่ 19 รายการ เช่น ปลากระป๋องเดิม 1 รายการ เพิ่มอีก 4 รายการ เป็น 5 รายการ ผงซักฟอก เดิม 1 รายการ เพิ่มอีก 1 รายการ เป็น 2 รายการ สบู่ เดิม 4 รายการ เพิ่มอีก 2 รายการ เป็น 6 รายการ น้ำยาล้างจาน เดิม 1 รายการ เพิ่ม 1 รายการ เป็น 2 รายการ และผู้ผลิตรายใหม่ ได้เสนอรายการสินค้าเข้ามา 99 รายการ เช่น น้ำปลา 1 รายการ ข้าวสารถุง 17 รายการ นมถั่วเหลือง 3 รายการ น้ำผลไม้ 11 รายการ น้ำมันปาล์ม 5 รายการ กะทิมะพร้าวหอม 2 รายการ เครื่องเขียน 8 รายการ หนังสือเสริมความรู้ 5 รายการ และปุ๋ยเคมี 41 รายการ

“คาดว่าจะมีรายการสินค้าเพิ่มเติมเข้ามาอีก เพราะกระทรวงพาณิชย์เปิดกว้างให้สินค้าทุกกลุ่มเข้ามาร่วมโครงการ เพียงแต่ขอให้เป็นสินค้าที่มีมาตรฐาน และเป็นที่ต้องการของตลาด ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่เท่านั้น รายเล็ก รายกลางก็สามารถส่งรายการสินค้ามาเข้าร่วมได้” นายสนธิรัตน์กล่าว

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า สำหรับจำนวนร้านค้าปลีกดั้งเดิม (โชวห่วย) และร้านค้าปลีกชุมชนที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ ขณะนี้มีจำนวนกว่า 18,000 แห่งแล้ว ซึ่งได้จัดส่งรายชื่อไปให้กรมบัญชีกลางเพื่อติดตั้งเครื่องรูดบัตร โดยตามเป้าหมายต้องการให้มีร้านกระจายครอบคลุมตำบลละ 1 แห่ง รวม 8,000 ตำบลทั่วประเทศ เพื่อให้ทันต่อการเริ่มใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560 เป็นต้นไป

ส่วนกรณีที่ร้านค้าปลีกมีความเป็นห่วงว่าการเข้าร่วมร้านธงฟ้าประชารัฐจะถูกเรียกเก็บภาษีจากรัฐบาล ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดไปทำความเข้าใจกับร้านค้าในพื้นที่แล้วว่าการเข้าร่วมโครงการจะต้องติดตั้งเครื่องรูดบัตร โดยหากเป็นบุคคลธรรมดาก็จะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากเป็นนิติบุคคลจะคิดจากฐานภาษีเงินได้นิติบุคคล และการเก็บภาษีจะขึ้นอยู่กับรายรับต่อปีว่าถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีหรือไม่ ถ้าไม่ถึงเกณฑ์ก็ไม่ต้องเสียภาษี จึงไม่อยากให้ร้านค้ากังวล และการเข้าร่วมโครงการกับรัฐบาลมีผลดีในแง่การได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น