“อุตตม” เผยนักธุรกิจญี่ปุ่น 600 รายเตรียมยกทัพพบ “บิ๊กตู่” 11 ก.ย.ก่อนลงทุนพื้นที่อีอีซี 13 ก.ย.นี้ ขณะที่เวทีสัมมนาใหญ่ธุรกิจญี่ปุ่น-ไทยกว่า 1,200 รายคึกคักเตรียมเปิดโต๊ะเจรจาจับคู่ธุรกิจ 4 โซน มั่นใจช่วยดันลงทุนไทยปีนี้เพิ่มแน่
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 11-13 ก.ย.นี้นักลงทุนญี่ปุ่นประมาณ 600 ราย นำโดย Mr. Hiroshige Seko รมว.เศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI) จะเดินทางมาไทย โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะให้คณะดังกล่าวเข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 11 ก.ย. และจะมีการจัดสัมมนา Symposium on Thailand 4.0 towards Connected Industries วันที่ 12 ก.ย. หลังจากนั้นคณะนักลงทุนทั้งหมดจะลงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งทั้งหมดเชื่อมั่นว่าจะก่อให้เกิดการลงทุนในไทยปีนี้เพิ่มขึ้น
“งานสัมมนาวันที่ 12 ที่ 4 หน่วยงานหลักจัดขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรม พาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และสำนักงานอีอีซี นักลงทุนญี่ปุ่น 600 รายที่เดินทางมา ผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่อยู่ในไทยแล้วอีก 400 ราย และนักลงทุนไทยอีก 300 ราย ซึ่งไทยเองจะนำเสนอยุทธศาสตร์อีอีซี ขณะเดียวกันในงานยังมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ หรือ Business Matching ระหว่างผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพ 300 รายกับคณะของญี่ปุ่นที่แบ่งโซนไว้ 4 โซน คือ 1. ชิ้นส่วนยานยนต์ 2. อิเล็กทรอนิกส์ 3. ไบโอเทคโนโลยี 4. อุตสาหกรรมบริการ ส่วนโซน 5 เป็นหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการค้าและลงทุน” นายอุตตมกล่าว
นอกจากนี้ ภายในงานยังมี MOU & MOI ทั้ง 7 คือ 1. สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Keidanren) กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) หอการค้าไทย และสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งญี่ปุ่น (JCCI) 2. สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) กับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) 3. กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กับสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ภายใต้แนวคิด (Flex Campus)
4. นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร กับบริษัท Hitachi 5. กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) 6. กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กับองค์การสนับสนุน SMEs แห่งประเทศญี่ปุ่น (SMRJ) 7. กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และบริษัท JC Service Co.,Ltd.
“การมาครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ครบ 130 ปี ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ลงทุนในไทยให้เป็นฐานการผลิตที่สำคัญ และการมาครั้งนี้ได้ยืนยันว่าไทยยังเป็นประเทศที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ส่วนความคืบหน้า พ.ร.บ.อีอีซีประเมินว่าน่าจะเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในสิ้นเดือนนี้” รมว.อุตฯ กล่าว
สำหรับนักธุรกิจญี่ปุ่น 600 รายที่จะมาไทย เช่น อายิโนะโมะโต๊ะ มิตซุย อิโตชู โตโยต้ามอเตอร์ NEC เดนโซ FOMM Shinwa มิตซูบิชิ ฯลฯ