“พาณิชย์” ตั้งเป้าผลักดันมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยโตปีละ 20% หลังปัจจุบันมีเพียง 2,700 ล้านบาท มั่นใจดันเพิ่มได้แน่เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดโลกที่มีสูงถึง 3 ล้านล้านบาท เตรียมอัดมาตรการส่งเสริม เร่งเพิ่มการผลิต สร้างมาตรฐานสินค้า และเพิ่มช่องทางการตลาด เผยล่าสุดจับมือ BIOFACH จัดงานแสดงสินค้าอินทรีย์ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนจะผลักดันให้มูลค่าตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแบบเท่าตัว หรือเฉลี่ยเติบโตปีละ 20% จากปัจจุบันที่ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยมีมูลค่าเพียง 2,700 ล้านบาท หรือขยายประมาณ 10% แบ่งเป็นการส่งออกประมาณ 1,100 ล้านบาท ที่เหลือเป็นมูลค่าตลาดภายในประเทศ 1,600 ล้านบาท เพราะถ้าเทียบกับมูลค่าตลาดอินทรีย์ของโลกที่มีมูลค่า 3 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 8.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% เชื่อว่าตลาดเกษตรอินทรีย์ของไทยน่าจะผลักดันให้เติบโตสอดคล้องกับการเติบโตของตลาดโลกได้
ทั้งนี้ มาตรการที่กระทรวงพาณิชย์จะนำมาใช้ในการผลักดันให้การขยายตัวของตลาดเกษตรอินทรีย์ของไทยเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จะดำเนินการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาคการผลิตที่จะต้องให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะปัจจุบันการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยยังมีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการ
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะผลักดันให้มีการพัฒนาในเรื่องของมาตรฐานที่จะมารองรับสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยจะเข้าไปช่วยเรื่องการสนับสนุนใบรับรองมาตรฐานตามมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์สากล เช่น IFOAM และมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ภายในประเทศ
ส่วนการเพิ่มช่องทางการตลาด ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับบริษัท NurnbergMesse จำกัด (NM) ประเทศเยอรมนี ผู้จัดงาน BIOFACH ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจอินทรีย์ระดับโลก ที่จะสนับสนุนให้ไทยเป็นผู้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าอินทรีย์และสินค้าธรรมชาติที่ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ชื่องาน Organic Expo-BIOFACH Southeast Asia และ NATURAL Expo Southeast Asia ซึ่งจะช่วยยกระดับการจัดงานของไทยให้เข้าสู่มาตรฐานสากล เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงและพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในอาเซียน
“ไทยถือเป็นประเทศที่ 6 ที่ได้รับเลือกให้จัดงานระดับโลกดังกล่าว จากปัจจุบันที่มีการจัดงานที่ จีน สหรัฐฯ อินเดีย บราซิล และเยอรมนี โดยแผนการจัดงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 ก.ค. 2561 ส่วนสถานที่จะมีการคัดเลือกสถานที่ใหญ่กว่าทุกครั้งของการจัดงาน เพราะนอกจากจะเชิญประเทศอาเซียนมาเข้าร่วมงานด้วยแล้ว จะมีการเชิญผู้ประกอบการต่างชาตินอกภูมิภาคอาเซียนมาร่วมเจรจาทางธุรกิจและแสดงสินค้าภายในงานด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของภูมิภาค” นางอภิรดีกล่าว