ความสัมพันธ์ที่ดีและแนบแน่นแบบวิน-วิน ด้วยกันทั้งคู่ ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เจ้าของปั๊ม ปตท. กับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่เปิดในปั๊ม ปตท. ดำเนินมานานไม่ต่ำกว่า 10-20 ปีแล้ว และไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งอะไรที่ใหญ่โต
ส่งผลให้ ปตท.กลายเป็นเจ้าตลาดปั๊มน้ำมันเพราะมีเซเว่นฯ เป็นแม่เหล็กสำคัญ จนกระทั่งขยายธุรกิจนอนออยล์ในปั๊มน้ำมันที่ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับที่เซเว่นอีเลฟเว่นก็ผูกขาดช่องทางในปั๊ม ปตท.ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่ ปตท.จะไม่ต่อสัญญา และเขี่ยเซเว่นฯ ทิ้งไป ท่ามกลางการแข่งขันธุรกิจค้าปลีกคอนวีเนียนสโตร์ที่รุนแรงอย่างทุกวันนี้ แต่ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน และอะไรก็มักจะเกิดขึ้นได้ในสนามธุรกิจเมืองไทย
แต่กระแสที่ว่า ปตท.จะเขี่ยเซเว่นฯ ทิ้งกระหึ่มขึ้นมา เพราะเป็นคำกล่าวของนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด (PTTRM) ผู้บริหารสถานีบริการน้ำมัน ปตท.-จิฟฟี่ ที่เหมือนกับคาดหวังเอาว่าจิฟฟี่เองอาจจะมีความแข็งแกร่งมากพอจากการปรับตัวและการลงทุนสร้างความพร้อมต่างๆ มากพอที่จะเข้ามาแทนที่เซเว่นฯ ใน ปตท.ได้ในอีก 6 ปีหลังจาก ปตท.หมดสัญญากับทางเซเว่นฯ
จึงกลายเป็นเรื่องขึ้นมาทันที
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้สามารถมองได้สองมุม ทั้งเป็นไปได้ที่เซเว่นฯ จะถูก ปตท.เขี่ยทิ้งเพื่อเปิดทางให้จิฟฟี่ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ ปตท.อยู่แล้วเข้ามาเสียบแทน
กับอีกมุมหนึ่งที่ว่า เซเว่นฯ ยังคงหนังเหนียวติดหนึบ ปตท.ต่อไปได้
ในมุมที่ไม่น่าเป็นไปได้
ถ้าเทียบฟอร์มระหว่างเซเว่นฯ กับจิฟฟี่แล้ว ดูเหมือนว่าเซเว่นฯ จะยังคงมีความได้เปรียบและเหนือชั้นอยู่หลายขุม โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารทั้งที่สดและไม่สด ซึ่งเซเว่นฯ มีสัดส่วนอาหารมากกว่า 80% แล้วในขณะนี้ และเป็นสิ่งที่ทำให้เซเว่นฯ ทุกวันนี้เติบโตเร็วมาก แทบจะเรียกได้ว่าเป็นครัวสำคัญของผู้บริโภคไปแล้ว และซัปพลายเออร์ก็มีหลากหลายทั้งเอสเอ็มอี หรือรายใหญ่
ที่สำคัญคือเครือซีพีที่ผลิตป้อนให้หลายราย จึงมีความหลากหลายและความได้เปรียบด้านอาหารมากกว่า โดยเฉพาะอาหารแช่แข็ง อาหารซีล เครื่องดื่ม ขนม ผลไม้ สารพัด ด้วยปริมาณเอสเคยูมหาศาล
ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า คอนวีเนียนสโตร์แข่งกันที่อาหารเป็นหลัก
ขณะที่จิฟฟี่เองเป็นเหมือนคอนวีเนียนสโตร์ธรรมดา มีเพียง 149 สาขาในเวลานี้ตามจำนวนปั๊ม ปตท.ที่ซื้อมาจากปั๊มเจ็ทนั่นเอง และมีอีก 6 สาขาที่อยู่นอกปั๊ม ทุกวันนี้สัดส่วนอาหารที่ขายในจิฟฟี่ยังไม่ถึง 80% แม้ตั้งเป้าหมายว่าจากนี้จะเพิ่มรวมทั้งหันมาเน้นจำหน่ายอาหารพร้อมปรุงมากขึ้นจากเดิม 30-40% เป็น 70% เรื่องอาหารจึงยังไม่โดดเด่นเท่ากับร้านเซเว่นฯ
แต่ต้องยอมรับว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของปั๊ม ปตท.ที่เป็นเจ็ทเดิมที่โดดเด่นคือ เรื่องของห้องน้ำที่มีความสะอาด หรืออาจกล่าวได้ว่าเข้าห้องน้ำเป็นหลัก มาซื้อของกินที่จิฟฟี่เป็นรอง
อีกประการคือ จำนวนสาขาของเซเว่นฯ ใน ปตท.มากกว่า 1,400 สาขา หากจิฟฟี่จะเข้ามาเสียบแทน แม้ว่าจะมีพื้นที่อยู่แล้วก็ตามไม่ง่ายนัก เพราะจะต้องลงทุนแบบรวดเร็ว ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลามากพอสมควร
แม้ว่าแผนช่วง 5 ปีจากนี้ของ ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด (PTTRM) ตั้งแต่ปี 2561-2565 มีประมาณ 11,000 ล้านบาท เพื่อขยายปั๊มน้ำมัน ปตท.ราว 70% ของงบลงทุน วางเป้าหมายขยายปั๊มน้ำมัน ปตท.-จิฟฟี่ปีละ 6 สาขา เพื่อให้ครบ 200 สาขา ส่วนใหญ่จะเป็นปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ พื้นที่ 6-7 ไร่ เพื่อต้องการปลดล็อกขนาดพื้นที่ร้านจิฟฟี่ให้ใหญ่กว่า 279 ตารางเมตร
เซเว่นฯ ทำรายได้ให้กับ ปตท.อย่างมาก ทั้งในทางตรง คือ ในปั๊มที่เปิดครบวงจรช่วยดึงรถเข้ามาเติมน้ำมัน ปตท.มากขึ้น เพราะบริการหลากหลายโดยเฉพาะร้านอาหาร ขณะที่ ปตท.เองก็จะได้รายได้ค่าเช่าที่จากเซเว่นฯ แม้จะไม่มีการเปิดเผยว่าค่าเช่าเท่าใด หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นการจ่ายส่วนแบ่งทางรายได้แทนค่าเช่าหรือเปล่าด้วยซ้ำไป
ซีพีเองก็ไม่ต้องการที่จะต้องเก็บกระเป๋าเพื่อเดินออกจากพื้นที่ปั๊ม ปตท. แน่นอนว่า ด้วยความเป็นเจ้าตลาดน้ำมันของ ปตท. ผู้บริโภคต้องเข้ามาใช้บริการมาก ลูกค้าก็ต้องมาซื้อของที่เซเว่นฯ อยู่แล้ว อีกทั้งจำนวน 1,400 สาขาในปั๊มนี้ถือว่าเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของเซเว่นฯ ทั่วประเทศซึ่งแม้จะไม่มากแต่ก็สำคัญ
ปัจจุบันมีร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 9,788 สาขา (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560) โดยซีพีออลล์ตั้งเป้าหมายที่จะเปิดให้ครบ 13,000 สาขาภายในปี 2564 ขณะที่ยอดขายรวมในปี 2559 มีรายได้รวมประมาณ 451,939 ล้านบาท และผลกำไรสุทธิที่ 16,677 ล้านบาท
นั่นหมายความว่า ถ้าเซเว่นฯ หลุดจาก ปตท. รายได้ก็ต้องหายไปไม่ต่ำกว่า 10% จากทั้งหมดที่มีอยู่แน่นอน
หรือว่านี่คือเกมของ ปตท. ที่ต้องการจะสร้างความหวาดหวั่นให้กับเซเว่นฯ เสมือนกับเป็นการขู่ว่า ไม่แคร์ ถ้า ปตท.ไม่มีเซเว่นฯ เพื่อที่จะได้เจรจาต่อรองเพื่อขึ้นค่าตอบแทนมากขึ้นหลังจากครบสัญญานั่นเอง
อีกมุมของเกมนี้ที่อาจจะเป็นไปได้
หากพิจารณาความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการน้ำมันหลายราย จะพบว่ามีการปรัวตัวกันอย่างมากด้วยการหาพันธมิตรที่เกี่ยวกับค้าปลีกคอนวีเนียนสโตร์เข้ามาเปิดบริการ และหนึ่งในนั้นที่น่ากลัวไม่น้อยคือ คู่แข่งอย่างปั๊มบางจาก ทุกวันนี้ไล่หลังตามมาติด ล่าสุดคือการเป็นพันธมิตรร่วมกับทางสพาร์ ซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำของเนเธอร์แลนด์ เข้ามารุกตลาดไทย และขยายตัวอย่างรวดเร็วหลายสาขาแล้วย่านชานเมืองและถนนประธานระดับจังหวัด และรุกเข้ากรุงเทพฯ ปริณฑลบ้างแล้ว สพาร์เป็นซูเปอร์มาร์เกตขนาดย่อม มีสินค้าที่แตกต่างและย่อมมีมากกว่าโดยเฉพาะอาหารสด
จึงอาจจะเป็นอีกตัวเร่งหนึ่งหรือไม่ที่ทำให้ ปตท.ต้องระวังบางจากมากขึ้น ด้วยการทำเองดีกว่า
เป็นไปได้ว่า ปตท.ต้องการที่จะบริหารพื้นที่ค้าปลีกนี้เอง ด้วยการเปิดทางให้จิฟฟี่เข้ามาบริการแทน เพราะจะได้ง่ายต่อการบริหารจัดการเพราะเป็นธุรกิจในเครือเอง จากเดิมที่เซเว่นฯ บริหารเอง
มองเกมรุกของจิฟฟี่ ก็น่าจะเข้าทางที่ ปตท.อาจจะไม่ต่อสัญญากับทางเซเว่นฯ เมื่อครบสัญญาจากนี้อีก 6 ปี
กับแผนการลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้า (DC) ที่วังน้อย จากเดิมที่เช่าที่ดินทำศูนย์กระจายสินค้าที่ปทุมธานี แผนการเร่งเปิดปั๊มน้ำมัน ปตท.บนพื้นที่ 6-7 ไร่ ซึ่งเป็นขนาดใหญ่จำนวน 30 สาขา และส่วนใหญ่จะเปิดเป็นร้านจิฟฟี่โฉมใหม่เพื่อหลีกหนีข้อจำกัดที่ไม่สามารถเปิดได้ตามเงื่อนไขลิขสิทธิ์กับทางเซเว่นฯ เดิม เพราะมีพื้นที่ปั๊มมากกว่า 4 ไร่ และมีพื้นที่ทำคอนวีเนียนสโตร์ได้มากกว่า 279 ตารางเมตร
การเร่งขยายาสาขาจิฟฟี่นอกปั๊มน้ำมัน ปตท.เพิ่มขึ้นก็ดำเนินการควบคู่ไปด้วย ซึ่งไม่ใช่การขยายธุรกิจในไทยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสยายปีกไปต่างประเทศด้วยโมเดลการขายแฟรนไชส์ ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม2560ที่ผ่านมา นายสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ก็ได้เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาการมอบสิทธิ์ในการจำหน่ายแฟรนไชส์ร้านจิฟฟี่ (มาสเตอร์แฟรนไชส์) ในประเทศลาวทั้งหมด ระหว่างบริษัท ปตท.บริหารค้าปลีก จำกัด และ บริษัท ปตท.(ลาว) จำกัด ทั้งนี้ จะเปิดร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่รูปแบบแฟรนไชส์ในกัมพูชาและฟิลิปปินส์ต่อไปด้วย
ทั้งนี้เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์จิฟฟี่ และสร้างแรงกระเพื่อมและสร้างการเติบโต สร้างอำนาจต่อรองกับซัปพลายเออร์ให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้ลดต้นทุนลงเมื่อมีสเกลของธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น เพราะทุกวันนี้แน่นอนว่าต้นทุนของจิฟฟี่สูงกว่าเซเว่นฯ อยู่เพราะปริมาณสาขาที่น้อยกว่ากันแบบทิ้งไม่เห็นฝุ่น
สิ่งที่สนับสนุนแนวคิดที่ว่า ปตท.จะดึงจิฟฟี่เสียบแทนนั้น คือ จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ ปตท.เริ่มลงทุน บริหารจัดการ และซื้อมาสเตอร์แฟรนไชส์เองทั้งหมดแล้วในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นกาแฟที่ตัดสัมพันธ์พันธมิตรเริ่มแรกอย่าง บ้านใร่กาแฟ เพื่อสร้างแบรนด์อเมซอนขึ้นมาเอง ปัจจุบันต้องยอมรับว่าอเมซอนเป็นเชนร้านกาแฟที่มีสาขามากที่สุดในไทยด้วยเครือข่ายกว่า 1,000-1,500 สาขา ทั้งในปั๊ม ปตท.และนอกปั๊ม ปตท. ซึ่งมากกว่าเชนยักษ์อย่างสตาร์บัคส์อีกด้วยที่มีสาขาในไทยประมาณ 300 กว่าสาขาเท่านั้นเอง
จริงๆ แล้วร้านกาแฟอเมซอนนั้นแรกเริ่มเดิมทีเกิดมาจากความร่วมมือระหว่าง ปตท. กับ “อโรม่า กรุ๊ป” ที่เป็นพันธมิตรสร้างชื่อ อเมซอน มาด้วยกันไม่ต่ำกว่า 10 ปี ต่อมา ปตท.ไม่ต่อสัญญากับอโรม่ากรุ๊ป และได้เข้าบริหารจัดการร้านกาแฟอเมซอนเอง
เช่นเดียวกับที่ในอดีต ปตท.ซื้อกิจการปั๊มเจ็ท ซึ่ง ปตท.ก็เลิกสัญญากับบ้านใร่กาแฟในปั๊มเจ็ททุกสาขาซึ่งเป็นพันธมิตรมานาน เพราะมีกาแฟอเมซอนเอามาเปิดแทน จนธุรกิจของบ้านใร่กาแฟต้องระเห็จและสะดุดไปนาน
เชนอาหารที่ ปตท.ซื้อแฟรนไชส์มาดำเนินการอีก เช่น ร้านอาหารฮั่วเซ่งฮง ร้านแด๊ดดี้โด ส่วนที่พัฒนาขึ้นมาเอง เช่น ชานมไข่มุกเพิร์ลลี่ที ร้านกาแฟอเมซอน และร้านก๋วยเตี๋ยวเรือด้วย เป็นต้น
หาก ปตท.ตัดสินใจไม่เอาเซเว่นฯ แล้วในอนาคต คิวต่อไปคงต้องจับตาดูร้านไก่ทอดเคเอฟซี อีกแบรนด์ที่เป็นพันธมิตรกับ ปตท.มานาน เมื่อ ปตท.มีแบรนด์ตัวเองแล้วที่ชื่อว่า เท็กซัสชิกเก้น ที่ซื้อมาสเตอร์แฟรนไชส์มาจากอเมริกาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วงแรกนี้ขยายสาขาตามศูนย์การค้าก่อน เช่น เซ็นทรัลเวสต์เกต ซีคอนสแควร์ เป็นต้น เมื่อถึงวันนั้นที่ยกพลเข้ามาในปั๊ม ปตท. แน่นอนแล้ว เคเอฟซีจะอยู่ได้อย่างไร
นี่คือแรงกระเพื่อมในอนาคตอีกลูก
ในจังหวะที่เซเว่นฯ กำลังเผชิญอยู่
“เซเว่นฯ มีร้านในปั๊ม ปตท.ปัจจุบันประมาณ 1,100 สาขา และจะทยอยหมดสัญญาภายใน 6 ปีจากนี้ ซึ่ง ปตท.เองก็อยู่ระหว่างการพิจารณาจะต่อสัญญาหลักความร่วมมือกับทางเซเว่นอีเลฟเว่นต่อหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินศักยภาพความแข็งแกร่งของร้านจิฟฟี่ที่ตอนนี้มีอยู่ 149 สาขาในปั๊ม ปตท. และอีก 6 สาขาที่อยู่นอกปั๊ม ปตท. ซึ่งคาดว่าภายใน 2-3 ปีจากนี้จะต้องได้ข้อสรุปว่า ปตท.จะพิจารณาต่อสัญญาแฟรนไชส์เซเว่นฯ หรือไม่ โดยพิจารณาจากสถิติคนเข้าร้าน ยอดขาย และความพร้อมของจิฟฟี่เองด้วย ที่คาดว่าอีก 6 ปีจะแข็งแกร่งมากขึ้น” นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ กล่าว
แม้ล่าสุด ปตท.จะยืนยันว่ายังเป็นพันธมิตรกับเซเว่นฯ
โดยนายสุชาติ ระมาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.ยืนยันเดินหน้าธุรกิจค้าปลีกในประเทศด้วยการจับมือกับร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเปิดให้บริการในสถานีบริการ ปตท.ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนาน โดยปัจจุบันมีร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น เปิดให้บริการในสถานีบริการ ปตท.แล้วกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ และยังคงมีแผนงานที่จะร่วมกันขยายให้มีจำนวนรวมกว่า 1,700 แห่ง ในอีก 4-5 ปีนี้
ยังคงต้องรอดูว่า เกมนี้ จะจบลงอย่างไร