xs
xsm
sm
md
lg

รายการแข่ง “ร้องเพลง” ล้นทะลัก เบียด “ทอล์กโชว์” ขาลงตกขอบจอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายการ The Mask Singer
นีลเส็น (ประเทศไทย) สำรวจพบกลุ่มรายการประกวดร้องเพลงมีเรตติ้งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรายการอื่นๆ โดยเฉพาะรายการเดอะมาสก์ ซิงเกอร์ 2 มีเรตติ้ง 8.23 สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรายการเพลง รองลงมาคือ นักร้องซ่อนแอบ เรตติ้ง 5.9 และรายการไมค์ทองคำ ปี 6 เรตติ้ง 4.77 ตามลำดับ ส่วนรายการกิ๊ก ดู๋ สงครามเพลง มีเรตติ้ง 3.89 อยู่ในอันดับสี่ ทั้งนี้ สำหรับเดอะมาสก์ ซิงเกอร์ 2 ถือเป็นรายการเพลงที่มีเรตติ้งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของละครหลังข่าวพระราชสำนักที่มีเรตติ้งเพียง 3-4

ทั้งนี้ พบว่ารายการที่สามารถชิงเรตติ้งสู้ละครไพรม์ไทม์หลังข่าวพระราชสำนักของช่อง 3 และช่อง 7 ในขณะนี้ ได้แก่ ทุบโต๊ะข่าว ของช่องอัมรินทร์ทีวี และเดอะมาสก์ ซิงเกอร์ 2 ของเวิร์คพ้อยท์ทีวี

“จากรายการเดอะมาสก์ซิงเกอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากตั้งแต่ซีซันแรก จนมาถึงซีซันที่ 2 ก็ยังมีเรตติ้งสูงอยู่นั้น ส่งผลให้รูปแบบรายการประกวดร้องเพลงเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 2-3 รายการในช่องหลักแต่ละช่อง ซึ่งรายการใหม่จะประสบความสำเร็จได้หรือไม่อยู่ที่รูปแบบการนำเสนอที่น่าสนใจ โปรดักชันที่พร้อมและมีคุณภาพ รวมถึงผู้เข้าแข่งขัน จากเดิมผู้แข่งขันจะวิ่งเข้าหารายการ แต่ปัจจุบันกลายเป็นรายการประกวดร้องเพลงต้องวิ่งหาผู้จะเข้าร่วมแข่งขันแทน หากรายการไม่ดังพอ หรือเรตติ้งน้อย ไม่เป็นที่รู้จัก ผู้ประกวดก็จะปฏิเสธที่จะเข้าร่วมรายการนั้นไป” นายภวัตกล่าวเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม แต่ละช่องมีรายการประกวดร้องเพลงใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเริ่มเห็นเรตติ้งชัดเจนขึ้น เช่น “บัลลังก์เสียงทอง THE GOLDEN SINGER THAILAND” ในรูปแบบซีซันนัลโปรแกรม ของทางช่อง 3 ที่กำลังออกอากาศอยู่ในปัจจุบัน ทุกวันเสาร์ เวลา 18.20-19.50 น.

ส่วนทางช่อง7 รายการประกวดร้องเพลงที่มาแรงในเวลานี้ คือ รายการ “เปลี่ยนหน้าท้าโชว์ Sing Your Face Off Season 3” ในรูปแบบซีซันนัลโปรแกรมที่กำลังออกอากาศอยู่เช่นกันทุกวันเสาร์ เวลา 18.20 น. และที่น่าจับตามองอีกหนึ่งรายการของทางช่อง 7 คือ รายการ “จันทร์พันดาว ร้องสู้ฝัน” จากเน้นความดรามา มาเป็นความฮาในการประกวดแทน นอกจากนี้ยังมีรายการ “Stage Fighter” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.10 น. ทางช่อง GMM25 เป็นอีกหนึ่งรายการที่มีเรตติ้งน่าสนใจเช่นกัน

**ทอล์กโชว์หมดเสน่ห์ขาลง**
รายการ วูดดี้ตื่นมาคุุย
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าขนาดละครหลังข่าวพระราชสำนักยังต้องปรับตัว รายการที่ต่อจากละครในช่วงเวลาดังกล่าวยิ่งต้องปรับตัวหนักกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มรายการทอล์กโชว์ ปัจจุบันรายการดังๆ หลุดออกจากผังไปแล้วมากมาย เช่น วันวานยังหวานอยู่ ของทางช่อง 7, เพชรรามา ของช่อง 3, วู้ดดี้ เกิดมาคุย และล่าสุดกับรายการ “ตื่นมาคุย” ของทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ซึ่งทั้งสองรายการเป็นของ “วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา”

ส่วนทอล์กโชว์ดังหลายรายการที่ยังอยู่ก็ต้องปรับตัวให้มีสีสันมากขึ้นจึงจะอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็น ช่อง 3 กับรายการ “สามแซบ” ที่ย้ายจากคืนวันพุธมาเป็นบ่ายวันอาทิตย์และมีเวลาออกอากาศลดลง “รายการตีสิบ” ที่ปัจจุบันคือ รายการตีสิบเดย์ นอกจากช่วงทอล์กโชว์ ยังนำเสนอเนื้อหารายการที่มีความน่าสนใจเข้ามาเสริม เน้นเสียงหัวเราะเพิ่มเข้ามา และรายการทูไนท์โชว์ มาเป็นทูเดย์โชว์ ในปัจจุบันที่ออกอากาศช่วงบ่ายวันอาทิตย์และลดเวลาลงเหลือเพียง 1 ชม.

ส่วนทางช่อง 7 หลังทอล์กโชว์รายการวันวานยังหวานอยู่จบลง พบว่ารายการทอล์กโชว์ดังอย่าง รายการจันทร์พันดาว ได้ปรับเป็นรายการประกวดร้องเพลงในชื่อ “จันทร์พันดาว ร้องสู้ฝัน” ที่มีการปรับเปลี่ยนกติกาและการแข่งขันรูปแบบใหม่อีกครั้งในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาด้วย

“รายการทอล์กโชว์ปัจจุบันเป็นคอนเทนต์ที่เรตติ้งค่อนข้างนิ่ง อีกทั้งมีความน่าสนใจน้อยลงเมื่อเทียบกับคอนเทนต์อื่นๆ จึงอาจจะทำให้เอเยนซีโฆษณาให้ความสนใจซื้อโฆษณาน้อยลง เมื่อเทียบกับคอนเทนต์วาไรตีเกมโชว์ รายการประกวดร้องเพลง ที่ตรงกับความนิยมของคนไทยมากกว่า” นายภวัตแสดงความคิดเห็น

***ส่อแววอุตฯ โฆษณาไปไม่ถึง 1 แสนล้าน**

นายภวัตกล่าวถึงภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปี 2560 นี้ด้วยว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่เหนื่อยสุดของสื่อทีวี แม้จะมีการแข่งขันด้านคอนเทนต์อย่างรุนแรง เหตุจากลูกค้ายังมุ่งลดงบโฆษณาลง เน้นลงในสื่อออนไลน์มากขึ้น และสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ดี ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้น่าจะตกลง 10-15% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ไม่นับรวมปีก่อนที่มีสถานการณ์พิเศษเกิดขึ้น หรือในปีนี้มองว่าเม็ดเงินโฆษณาจริงอาจจะมีมูลค่าไม่ถึง 100,000 ล้านบาท

เห็นได้จากสัญญาณการซื้อสื่อช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา พบว่าภาพรวมการใช้เม็ดเงินโฆษณาจริงติดลบ 9.2% หรือมีมูลค่า 39,734 ล้านบาท เนื่องจากในตลาดมีการลดแลกแจกแถม และทำโปรโมชันการซื้อขายโฆษณาลดลงสูงมาก โดยเฉพาะช่องทีวีในกลุ่มรอง เช่น ช่อง 8, โมโน 29, ช่องวัน ราคาโฆษณาเฉลี่ยมีการปรับลง 50-60% และช่องทีวีในกลุ่มสามที่เหลือ พบว่าราคาโฆษณาลดลงสูงถึง 80-90% ตัวเลขจึงแตกต่างกับทางนีลเส็นที่สำรวจไว้ตามราคาตั้งขายว่าอยู่ที่ 44,344 ล้านบาท ลดลง 5.3%
กำลังโหลดความคิดเห็น