“พาณิชย์” จัดทีมลุยวังเวียง-หลวงพระบาง รุกธุรกิจท่องเที่ยว-ขนส่ง-ขายสินค้า

“พาณิชย์” เตรียมจัดคณะผู้แทนการค้าบุกเมืองรอง สปป.ลาว นำนักธุรกิจ 18 บริษัท จากธุรกิจการท่องเที่ยว ขนส่งและโลจิสติกส์ และสินค้าอุปโภคบริโภค หาลู่ทางการค้าและการลงทุนที่วังเวียง และหลวงพระบาง เหตุ 2 เมืองนี้ เป็นสถานีหลักของรถไฟความเร็วสูง ลาว - จีน และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังเติบโต เผย ยังได้เตรียมนำคณะ YEN-D อีก 50 บริษัท ไปเจรจาค้าขายกับเวียดนามด้วย

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ จะจัดคณะผู้แทนการค้าการลงทุนเดินทางเยือนเมืองรองของ สปป. ลาว คือ วังเวียง แขวงเวียงจันทน์ และเมืองหลวงพระบาง แขวงหลวงพระบาง ระหว่างวันที่ 6 - 8 ก.ย. 2560 โดยนำผู้ประกอบการจำนวน 18 บริษัท จากกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและประทินผิว สินค้าอุปโภคบริโภค การขนส่งและโลจิสติกส์ เดินทางไปพบปะสร้างเครือข่ายและเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการใน สปป.ลาว เพื่อแสวงหาลู่ทางในการทำการค้าและการลงทุนร่วมกัน

“กลุ่มธุรกิจที่เดินทางไปครั้งนี้ เป็นธุรกิจที่มีโอกาสในการขยายตัวสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ สปป.ลาว ได้ดำเนินโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ลาว - จีน ทั้งสองเมืองที่คณะผู้แทนกำหนดเดินทางไปเยือนต่างถูกกำหนดให้เป็นสถานีหลักของเส้นทางเดินรถดังกล่าว ซึ่งน่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีต่อการจัดคณะผู้แทนเดินทางเยือนในครั้งนี้ เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการค้าและการลงทุนร่วมกันในอนาคต”

นอกจากนี้ ในส่วนของภาคเอกชน กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ต ที่แสดงความสนใจร่วมคณะ เป็นการเดินทางไปศึกษาและหาลู่ทางในการลงทุนในเมืองวังเวียง และหลวงพระบาง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวของ สปป.ลาว เพราะมองว่ามีโอกาสในการขยายตัวได้อีกมาก

นางดวงพร กล่าวว่า กรมฯ จะนำคณะเข้าเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษหลวงพระบาง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ที่จะทำการลงทุนใน สปป.ลาว และจะเข้าร่วมฟังโอกาสและลู่ทางการค้าการลงทุนใน สปป.ลาว จากผู้แทนแผนกอุตสาหกรรมและการค้าของแขวงหลวงพระบาง และผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเวียงจันทน์ รวมทั้งได้จัดให้มีการเจรจาเพื่อสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการ สปป.ลาว ด้วย

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 31 ส.ค.- 2 ก.ย. 2560 กรมฯ จะนำคณะผู้ประกอบการ YEN-D จำนวน 50 บริษัท เดินทางไปเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการ YEN-D ของเวียดนามจำนวน 60 ราย โดยมั่นใจว่า จะมีการตกลงซื้อขายเกินกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป เพราะการจัดคณะผู้ประกอบการ YEN-D ไปเจรจาธุรกิจก่อนหน้านี้ ที่ สปป.ลาว สามารถตกลงซื้อขายกันได้ 120 ล้านบาท ที่กัมพูชาได้ 220 ล้านบาท และที่เมียนมาได้ 150 ล้านบาท