กรมทรัพย์สินทางปัญญาชี้แจงกรณีมีคนแอบนำชื่อ Riceberry ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ ยันเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียยื่นคัดค้านและขอเพิกถอนได้ และไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไรซ์เบอร์รีไปขาย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Riceberry” ในหลายประเทศของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเจ้าของเครื่องหมายการค้าในไทย ซึ่งเป็นผู้คิดค้นพันธุ์ข้าวไรซ์เบอร์รี รวมถึงเกษตรกรไทยอีกเป็นจำนวนมาก ว่า การที่มีผู้ซึ่งไม่ใช่เจ้าของเครื่องหมายการค้าในไทย นำชื่อ “ไรซ์เบอร์รี และ Riceberry” ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ มีแนวทางที่สามารถดำเนินการได้ คือ เมื่อมีการประกาศโฆษณาคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เจ้าของเครื่องหมายการค้าในไทยหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถใช้สิทธิคัดค้านการจดทะเบียนได้ และหากเครื่องหมายการค้านั้นได้รับการจดทะเบียนในต่างประเทศแล้ว เจ้าของเครื่องหมายการค้าในไทยหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก็สามารถร้องเพิกถอนการจดทะเบียนได้เช่นกัน
ทั้งนี้ กรมฯ ได้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า คำว่า “ไรซ์เบอร์รี” และ “Riceberry” ให้กับศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้ว 4 คำขอ ได้แก่ คำขอเลขที่ 821133 821134 821135 และ 821136 เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2554 ในจำพวก 30 รายการสินค้าข้าว ส่งผลให้ผู้อื่นไม่สามารถนำคำว่า “ไรซ์เบอร์รี Rice berry” มาจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าในประเทศไทยได้อีก
สำหรับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวกับข้าวไรซ์เบอร์รีในต่างประเทศควรจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายรับรอง ซึ่งการจดทะเบียนเครื่องหมายรับรองต้องมีการยื่นข้อบังคับประกอบคำขอจดทะเบียน โดยข้อบังคับดังกล่าวเป็นการกำหนดมาตรฐานพันธุ์ข้าวที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการข้าว ประกอบกับต้องมีการกำหนดมาตรฐานในข้อบังคับที่ยื่นขอจดทะเบียน ซึ่งขณะนี้คณะทำงานบริหารจัดการและทำการตลาดสินค้าข้าวไรซ์เบอร์รีอินทรีย์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ตั้งขึ้น และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าวเป็นคณะทำงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำมาตรฐานเพื่อใช้เป็นข้อบังคับในการรับรองข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี โดยหน่วยงานภาครัฐที่จะเป็นผู้จดทะเบียนในต่างประเทศจะต้องมีความเชี่ยวชาญและมีความสามารถในการรับรองมาตรฐานพันธุ์ข้าวไรซ์เบอร์รีได้
อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีที่มีผู้อื่นไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Riceberry ในต่างประเทศแล้ว กรมฯ ยืนยันว่าคนไทยยังสามารถส่งข้าวไรซ์เบอร์รีสายพันธุ์ไทยไปขายในต่างประเทศได้ เพียงแต่อย่าส่งไปขายภายใต้เครื่องหมายการค้าที่ผู้อื่นยื่นจดทะเบียนไว้แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า รศ.ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว ม.เกษตรศาสตร์ ผู้คิดค้นพันธุ์ข้าวไรซ์เบอร์รี (Rice Berry) ได้ตรวจสอบพบว่า บริษัท แจสเบอร์รี่ จำกัด ได้ยื่นเรื่องไปยัง EUIPO (อียูไอพีโอ : European Union Intellectual Property Office) เพื่อขอจดเครื่องหมายการค้า RICEBERRY ในการส่งออกข้าวชนิดดังกล่าวไปยังตลาดยุโรปกว่า 28 ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 2559 แต่ศูนย์ฯ ได้ยื่นคัดค้านการจดเครื่องหมายการค้า และมีผลเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ศูนย์ฯ ได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไทยได้เสียสิทธิ์ชื่อ Riceberry ในจีน และมาเลเซีย และขณะที่ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไต้หวัน กำลังยื่นขอจดชื่อไรซ์เบอร์รี โดยได้ยื่นเรื่องคัดค้านไปทุกกรณีและกำลังรอผลการตัดสิน และได้แนะนำว่าภาครัฐควรยื่นเรื่องขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าข้าวไรซ์เบอร์รีให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อไม่ให้ไทยสูญเสียสิทธิ์