“อภิรดี” ตรวจตลาดสดเทศบาลสุราษฎร์ธานี ยันสินค้าราคาทรงตัว ทั้งเนื้อสัตว์ ผักสด และอาหารทะเล เผยพ่อค้าแม่ค้าให้ความร่วมมือปิดป้ายแสดงราคาเป็นอย่างดี ด้าน “บรรจงจิตต์” ตรวจตลาดพรานนก พบสินค้าราคาทรงตัวเช่นเดียวกัน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตลาดสดเทศบาลสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี โดยพบว่าสินค้าที่จำหน่ายในตลาดมีราคาปกติ ไม่มีรายการใดปรับราคาสูงขึ้น และพ่อค้าแม่ค้าต่างให้ความร่วมมือในการปิดป้ายแสดงราคา เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทราบราคาก่อนซื้อสินค้าเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ในส่วนของเนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อหมูและเนื้อไก่มีราคาทรงตัว อาหารทะเลก็มีราคาทรงตัว แต่เมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น และจังหวัดอื่นถือว่ามีราคาถูกกว่าเพราะใกล้แหล่งผลิต ขณะที่ผักสดมีราคาขึ้นลงตามปริมาณผลผลิตที่เข้าสู่ตลาด แต่ส่วนใหญ่มีราคาปรับตัวลดลง เช่น ผักชี สัปดาห์ก่อนราคาสูงถึงกิโลกรัม (กก.) ละ 120 บาท สัปดาห์นี้เหลือ กก.ละ 80 บาท เป็นต้น ส่วนผักคะน้า ถั่วฝักยาว และมะนาว ราคาทรงตัว
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตลาดพรานนก เขตบางกอกน้อย โดยพบว่าราคาเนื้อสัตว์มีราคาทรงตัวใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น เนื้อหมู กก.ละ 140 บาท ไก่สดทั้งตัว (รวมเครื่องใน) กก.ละ 65-70 บาท ไก่สดทั้งตัว (ไม่รวมเครื่องใน) กก.ละ 70-80 บาท ไข่ไก่ (คละ) ฟองละ 2.60 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 0 ฟองละ 3.70-3.80 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 3 ที่นิยมใช้ปรุงอาหารฟองละ 2.70-2.80 บาท กุ้งขาว (กลาง) กก.ละ 300-340 บาท ปลาหมึกกล้วย กก.ละ 280-300 บาท
ส่วนผักสด พบว่ามีแนวโน้มราคาลดลง โดยผักคะน้า กก.ละ 25-30 บาท ถั่วฝักยาว กก.ละ 40-45 บาท ผักกาดขาว กก.ละ 30-35 บาท ผักชี กก.ละ 80-100 บาท ต้นหอม กก.ละ 50-70 บาท และพริกขี้หนู (จินดา) กก.ละ 90-100 บาท เป็นต้น
น.ส.บรรจงจิตต์กล่าวว่า กรณีที่ผลสำรวจมีการระบุว่าประชาชนยังมีความกังวลเรื่องสินค้ามีราคาแพง ต้องดูองค์ประกอบและปัจจัยแวดล้อม เช่น ต้นทุนสินค้า การขนส่ง ค่าแรงงาน การแข่งขันในพื้นที่นั้นๆ เพราะมีผลต่อราคาขายสินค้าอาจไม่เท่ากัน แต่กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปดูแลและเพิ่มทางเลือกให้แก่ประชาชน โดยในการลดภาระค่าครองชีพด้านการบริโภคสินค้าก็มีสินค้าธงฟ้าเข้าไปดูแล การลดภาระค่าครองชีพด้านอาหารปรุงสำเร็จก็มีร้านอาหารหนูณิชย์
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มีแผนที่จะผลักดันให้ร้านค้าส่งค้าปลีกที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมฯ นำสินค้าจากโครงการธงฟ้าประชารัฐเข้าไปจำหน่าย ซึ่งจะทำให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้รับการดูแลด้านค่าครองชีพอย่างถาวร เพราะสินค้าธงฟ้าดังกล่าวมีราคาถูกกว่าท้องตลาดปกติ 15-20%