“อาร์เอส” ชิงเปิดศึกสถานีเพลงแข่งเดือดครึ่งปีหลัง ควักงบรีแบรนด์ “คูลฟาเรนไฮต์” ลุยเสิร์ฟคอนเทนต์ทั้งแพลตฟอร์มออนแอร์และออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “คูลลิซึ่ม 4.0 บียอนด์” เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์คน GEN C เผยทุ่มงบ 20 ล้านบาทอัด 4 แคมเปญรวดภายใน 2 เดือน มั่นใจรักษาบัลลังก์แชมป์สถานีเพลง 16 ปีซ้อน โกยรายได้ทะลุเป้า 500 ล้านบาท
นายปริญญ์ หมื่นสุกแสง กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึ่ม จำกัด ผู้บริหารสถานีเพลงคูล ฟาเรนไฮต์ ในเครืออาร์เอส เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการใช้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อออนไลน์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากรายได้ของบริษัทฯ เฉพาะส่วนออนไลน์ที่เติบโตขึ้นกว่าเท่าตัว บริษัทฯ จึงวางแผนดำเนินธุรกิจโฟกัสสื่อออนไลน์มากขึ้น
ล่าสุดใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท ประกาศรีแบรนด์ธุรกิจครั้งใหญ่ด้วยการสื่อสารผ่านแบรนด์ใหม่ “คูลฟาเรนไฮต์ (COOLfahrenheit)” เพื่อไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่บนหน้าปัดวิทยุ FM93 อีกต่อไป แต่นำเสนอคอนเทนต์ส่งตรงถึงมือผู้ฟังครบถ้วนทั้งแพลตฟอร์มออนแอร์และออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “คูลลิซึ่ม 4.0 บียอนด์ (COOLISM 4.0 Beyond)” ถือเป็นการตอบโจทย์นำพาธุรกิจก้าวข้ามสู่ยุค DIGITAL SOUNDATION อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งเป้าเจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์คน GEN C ที่มีพฤติกรรมชื่นชอบเสพสื่อออนไลน์ อายุระหว่าง 20-44 ปี
ทั้งนี้ ในเฟสแรกของการรีแบรนด์จะใช้กลยุทธ์ DIGITAL TRANSFORMATION มุ่งปรับเปลี่ยน 4 เรื่องหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่ การใช้ DIGITAL CONTENT RATING จับมือกับ บริษัท นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ผู้ทำวิจัยชั้นนำระดับโลก นำตัวชี้วัด Radio Online Rating มาใช้เป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชีย และแห่งที่ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย มาเป็นเครื่องมือวัดเรตติ้งเรียลไทม์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าของสินค้าและเอเยนซีที่สนใจซื้อโฆษณาสื่อออนไลน์ ทำให้เกิดการตัดสินใจโยกเม็ดเงินโฆษณามาใช้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะมีตัวชี้วัดระบุจำนวนผู้ฟังสะท้อนความคุ้มค่าและคุ้มราคาได้อย่าง แม่นยำ ชัดเจน และโปร่งใส
ขณะเดียวกันได้ปรับรูปแบบการนำเสนอคอนเทนต์ในเว็บไซต์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์ใหม่ที่เรียบง่ายแต่สดใส เข้าถึงไลฟ์สไตล์คน GEN C รวมทั้งนำเสนอ PRESENTATION CLOCK ใหม่ โดยปรับเวลาเบรกโฆษณาให้สั้นและกระชับขึ้นเพื่อสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้ฟังปัจจุบันที่ต้องการเสพคอนเทนต์ในทันที และการ CUSTOMIZE ปรับรูปแบบแคมเปญโฆษณาให้กับเจ้าของสินค้าและเอเยนซีที่ “คูลฟาเรนไฮต์” ซึ่งมั่นใจว่าการรีแบรนด์ในครั้งนี้จะทำให้เกิดการขยายฐานผู้ฟังไปยังกลุ่มสื่อออนไลน์มากกว่าเท่าตัว จากปัจจุบันมีผู้ฟังทะลุ 5 ล้านราย แบ่งเป็น ผู้ฟังออนไลน์กว่า 3.5 ล้านราย และผู้ฟังออนแอร์กว่า 1.5 ล้านราย สิ้นปี 60 นี้จะมีรายได้ตามเป้าที่วางไว้ 515 ล้านบาท ครองแชมป์ผู้นำตลาด 16 ปีซ้อน ซึ่งผลสำรวจเดือนล่าสุดระบุว่าสามารถครองส่วนแบ่งผู้ฟังสูงขึ้นเป็น 43% ทิ้งห่างคู่แข่งอันดับ 2 หลายเท่าตัว
นอกจากนี้ เตรียมทุ่มงบ 20 ล้านบาทลุยจัด 4 แคมเปญรวดภายในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ประกอบด้วย สองกิจกรรมที่เป็นซิกเนเจอร์ ได้แก่ COOL Outing 12 Fun in the Jungle เพื่อพาผู้ฟังยกออฟฟิศ 50 ชีวิต ไปเอาติ้งแหล่งสูดอากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ที่หมู่บ้านคีรีวง นครศรีธรรมราช และกิจกรรม อิ๊งค์ EAT ALL AROUND ปี 7 โดยมีอิ๊งค์ ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ เป็นผู้อาสาพาไปชิมอาหารเหนือที่ลำปาง รวมไปถึงจัดกิจกรรมโปรโมชันอย่าง COOL Prompt เปย์ ชวนผู้ฟังเข้ามาลงทะเบียนที่ www.coolism.net แล้วรอลุ้นรับการเปย์เงินรางวัล ง่ายๆ ทุกวัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตอกย้ำการเป็นสถานีเพลงแห่งแรกและแห่งเดียวที่เปลี่ยนทุกนาทีการรับฟังเป็นคะแนนสะสม รุกจัดกิจกรรม COOL Degree Beyond Rewards ชวนผู้ฟังทางออนไลน์มาสะสมเวลาการฟังบนแอปพลิเคชัน COOLISM เพื่อนำมาแลกรับของรางวัลสุดคูลได้ตลอดปี ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้สื่อวิทยุออนไลน์จะเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่สื่อวิทยุออนแอร์ยังเป็นสื่อที่มีเสน่ห์ต่อผู้ฟัง เพราะมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบได้ (Emotional Engagement) สามารถพูดคุยกับผู้จัดรายการวิทยุได้