ผู้จัดการรายวัน 360 - กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ปลื้มงานนักธุรกิจเยือนแดนโรตี ร่วมงาน ThailandWeek 2017 เจรจาธุรกิจ B2B ได้ผลจตามเป้า ชาวอินเดียแห่เจรจาธุรกิจซื้อสินค้าไทยมั่นใจคุณภาพมาตรฐานสากล
นางสาวสุวิมล ติลกเรืองชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้นำผู้ประกอบการไทย 49 บริษัทเข้าร่วมงานแสดงสินค้าแบบเจรจาธุรกิจ (B2B) ThailandWeek 2017 ณ เมืองมุมไบ ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับตราสัญลักษณ์ ThailandTrust Mark (T Mark) ซึ่งเป็นตรารับรองสินค้าและบริการคุณภาพของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมงานด้วย เช่น บริษัท ซาบิน่าฟาร์อีสท์ จำกัด ผู้ผลิตชุดชั้นในสตรี บริษัท ยูโรเปียนฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตขนม บริษัท เฮลซ์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) ผู้ผลิตน้ำหวานตรา “เฮลซ์บลูบอย” บริษัท อุตสาหกรรมพันท้ายนรสิงห์สินค้าพื้นเมือง จำกัด ผู้ผลิตเครื่องปรุงรส และบริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์จำกัด ผู้ผลิตเครื่องครัวเมลามีน
จากการร่วมงานครั้งนี้พบว่าชาวอินเดียสนใจสินค้าไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าใหม่ที่มีนวัตกรรม หรือลักษณะเฉพาะของสินค้าที่แตกต่างจากผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มเดียวกัน โดยสินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ อาหาร สินค้าสุขภาพและความงาม สินค้าออแกนิก สเปรย์ฉีดโถห้องน้ำก่อนใช้งาน สินค้าสำหรับเด็ก อัญมณีและเครื่องประดับ ของใช้ตกแต่งบ้านที่มีกลิ่นอายความเป็นตะวันออกของไทย เป็นต้น โดยการร่วมงานครั้งนี้ประมาณการว่ามีการสั่งซื้อสินค้าทันทีกว่า 10 ล้านบาท
“ชาวอินเดียเลือกซื้อสินค้าเพราะเป็นแบรนด์จากประเทศไทยเพราะเชื่อว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยมีมาตรฐานที่ดี ประกอบกับชาวอินเดียนิยมเดินทางมาเที่ยวไทยปีละกว่า 1.2 ล้านคนจึงคุ้นเคยและชอบอาหารไทยและมาเลือกซื้อสินค้าเกี่ยวกับปรุงอาหารไทย อีกทั้งยังชอบเครื่องสำอางและสินค้าสปาน้ำมันเหลืองซึ่งเป็นสมุนไพรไทย” นางสาวสุวิมลกล่าว
สำหรับการค้าระหว่างไทย-อินเดีย ในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค. 60 มีมูลค่ารวม 4,089.65 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.96% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยมูลค่า 2,531.24 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 16.73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยนำเข้าจากอินเดียมูลค่า 1,558.42 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 48.43% ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญของไทย 5 อันดับแรกได้แก่เม็ดพลาสติก, เคมีภัณฑ์, เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ, อัญมณีและเครื่องประดับ, รถยนต์และอุปกรณ์ส่วนประกอบ
ม.ล.คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า สินค้าไทยได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศเนื่องจากผู้บริโภคเชื่อมั่นว่ามีคุณภาพดีราคาสมเหตุสมผลและเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์คุณภาพสินค้าและบริการไทยในตลาดโลก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงจัดทำตราสัญลักษณ์ T Mark ตั้งแต่ปี 2555 เพื่อตอกย้ำจุดแข็งและสร้างความโดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์แก่สินค้าและบริการจากประเทศไทยซึ่งมีคุณภาพที่ทั่วโลกไว้วางใจ (Trusted Quality) ในทุกมิติ ได้แก่ กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากลใช้แรงงานอย่างเป็นธรรม (Fair Labour) การผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environmental Concern) มีความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) ที่สำคัญคือคุณภาพที่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจลงมือทำด้วยใจของผู้ประกอบการ (Heartmade Quality)
ปัจจุบันมีบริษัทผู้ผลิตสินค้าและบริการของไทยได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark รวม 742 บริษัท แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักคือ 1.สินค้า ได้แก่ กลุ่มอาหารอุตสาหกรรมหนัก ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น สินค้าทั่วไป และ 2.ธุรกิจบริการ ได้แก่ กลุ่มส่งเสริมสุขภาพ การศึกษานานาชาติ และธุรกิจบริการรักษาพยาบาล