ก.อุตฯ เปิดคลินิกเอสเอ็มอีสัญจรที่กระบี่ จ่อถก ธปท.สัปดาห์หน้าหาช่องทางช่วยเพิ่ม

กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับมหาดไทย สสว.-ธพว.และเครือข่าย เปิดเวที “คลินิกเอสเอ็มอีสัญจรแนวประชารัฐ” ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ที่จังหวัดกระบี่ ครั้งที่ 6 เปิด 4 ช่องทางการเงินหนุนเพิ่มขีดแข่งขัน กระแสตอบรับทั่วประเทศแห่ยื่นขอเงินสนับสนุนรวม 9,772 ราย วงเงิน 26,639.94 ล้านบาท อนุมัติแล้วจำนวน 2,555 ราย ในวงเงิน 7,240.10 ล้านบาท เตรียมถก ธปท. สมาคมธนาคารไทยและเอกชนสัปดาห์หน้า หามาตรการเสริมเข้าถึงแหล่งเงินกู้แบงก์ และแนวทางบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนหนุนเอสเอ็มอีส่งออก และโค้ชชิ่งการเงิน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (สสว.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (ธพว.) และหน่วยงานเครือข่ายจัดคลินิกเอสเอ็มอีสัญจรตามแนวประชารัฐ ในพื้นที่ จ.กระบี่ ใน 2 กลุ่มจังหวัดรวม 9 จังหวัด คือ ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง) และภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง) เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและองค์ความรู้ตามแนวทางรัฐบาลเพื่อสร้างเศรษฐกิจภายใน หรือ Local Economy โดยขณะนี้มีเอสเอ็มอีจากทั่วประเทศยื่นคำขอเงินสนับสนุนผ่าน 4 กองทุนแล้ว 9,772 ราย วงเงิน 26,639.94 ล้านบาท อนุมัติแล้วจำนวน 2,555 ราย ในวงเงิน 7,240.10 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนในส่วนของธนาคาร (แบงก์) และแนวทางการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสัปดาห์หน้ากระทรวงฯ สมาคมธนาคารไทย ภาคเอกชนจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหามาตรการมาเสริมให้กับเอสเอ็มอีมากขึ้นและภายใน 2 สัปดาห์จะได้ข้อสรุป

“เราจะพยายามหาเครื่องมือให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้นโดยจะหารือร่วมกันสัปดาห์หน้าในเรื่องของการค้ำประกันเงินกู้ การบริหารความเสี่ยงค่าเงินรองรับการส่งออก และองค์ความรู้เกี่ยวกับการเงินในการมาร่วมเป็นโค้ชชิ่ง โดยเงินจาก 4 กองทุนหลักที่รวมประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท เราหวังว่าจะปล่อยเอสเอ็มอีหมดสิ้นปีนี้จากนั้นเราจะยกร่าง พ.ร.บ.กองทุนฯ เพื่อให้มีเม็ดเงินช่วยถาวรในปีหน้า” นายอุตตมกล่าว

สำหรับแหล่งเงินทุน 4 กองทุนวงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท ได้แก่ 1. กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท 2. โครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงิน 15,000 ล้านบาท 3. เงินทุนที่บริหารโดย สสว. ได้แก่ กองทุนพลิกฟื้นเอสเอ็มอี วงเงิน 1,000 ล้านบาท และกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอีวงเงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่องทางที่จะทำให้เอสเอ็มอีทุกระดับเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อใช้พัฒนา ปรับปรุง และนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตในการสร้างขีดความสามารถการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ จ.กระบี่ จากข้อมูลล่าสุดในพื้นที่ 9 จังหวัดมีผู้ยื่นคำขอกู้เงินจากทุกกองทุนเข้ามาแล้วรวม จำนวน 915 ราย วงเงิน 2,183 ล้านบาท และได้อนุมัติแล้ว จำนวน 242 ราย วงเงิน 731 ล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐวงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับจังหวัดกระบี่ที่พึ่งเริ่มดำเนินการมาประมาณ 2 เดือน มีคำขอสินเชื่อเข้ามาแล้วจำนวน 10 ราย วงเงิน 52 ล้านบาท จากเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อทั้งสิ้น 62 ราย วงเงิน 186 ล้านบาท ชี้ให้เห็นว่ากระแสการตอบรับของผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่ดี โดยขณะนี้ได้มีการอนุมัติไปแล้ว 7 ราย วงเงิน 37.5 ล้านบาท

“การจัดคลินิกสัญจรครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 ซึ่ง 9 จังหวัดภาคใต้ดังกล่าวมีจำนวน SMEs มากถึง 257,667 ราย ถือเป็นการส่งเสริมเอสเอ็มอีให้เกิดการพัฒนาโดยเฉพาะการท่องเที่ยวให้เป็นสีเขียว ซึ่งในพื้นที่นี้มีโรงงานที่เข้าร่วมโครงการ Green Industry แล้ว 1,776 โรงงาน ขณะที่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปในพื้นที่ภาคใต้มีพืชเกษตรหลัก 2 ชนิด คือ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าไปสนับสนุนในทั้งสองอุตสาหกรรมให้เกิดมูลค่าเพิ่ม เช่น การพัฒนาพื้นสนามกีฬายางพารา การพัฒนาดอกยางล้อสำหรับรถบรรทุกที่ประหยัดพลังงานให้ปริมาณเขม่าดำน้อย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณการใช้ยางธรรมชาติเพิ่มขึ้น เป็นต้น” นายอุตตมกล่าว

นายบุญรักษ์ อุ่นยวง กรรมการผู้จัดการบริษัท เพื่อกระบี่ปาล์มออยล์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จำนวน 3,000,000 บาท เพื่อจัดซื้อเครื่องจักรกะเทาะเมล็ดในปาล์ม เพื่อนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มในการสร้างเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเครื่องสำอาง โดยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากเดิมได้มากกว่า 50% ทั้งนี้ จากการที่บริษัทได้รับการสนับสนุนจาก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เป็นส่วนช่วยธุรกิจให้มีแนวทางการพัฒนาและยกระดับการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ และจะเป็นการสร้างรายได้ให้เกษตรกรในท้องถิ่นขายผลปาล์มได้ในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด

นายธรรมศักดิ์ ภูพันธ์วิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระบี่เฮอริเทจ จำกัด กล่าวว่า โรงแรมของตนได้รับอนุมัติสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จำนวน 10,000,000 บาท เพื่อปรับปรุงห้องพักและบริเวณรอบโรงแรม หลังจากได้รับเงินสนับสนุนคาดว่าสามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ รวมถึงการยกระดับความสามารถในการให้บริการให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นและมีมาตรฐานการให้บริการสู่ระดับสากลต่อไป