“พาณิชย์” ยันลอยตัวก๊าซหุงต้มไม่กระทบราคาอาหารปรุงสำเร็จ เหตุมีผลกระทบแค่ 12 สตางค์ต่อถัง 15 กิโลกรัม ย้ำพ่อค้าแม่ค้าห้ามมั่วนิ่มขึ้นราคา แนะผู้บริโภคใช้ร้านอาหารหนูณิชย์ที่มีอยู่กว่า 1.2 หมื่นร้านทั่วประเทศเป็นทางเลือกในการบริโภคอาหารปรุงสำเร็จราคาถูก
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซแอลพีจี (LPG) ทั้งระบบ มีผลตั้งแต่ 1 ส.ค. 2560 เป็นต้นไปว่า กรมฯ ได้มีการติดตามผลกระทบจากการลอยตัวก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิด โดยประเมินว่าหากวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งเป็นวันลอยตัว และราคาก๊าซหุงต้มยังคงอยู่ในระดับเดียวกับขณะนี้ก็จะไม่มีผลกระทบต่อราคาอาหารปรุงสำเร็จ เพราะต้นทุนจะเพิ่มขึ้นเพียง 12 สตางค์ต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) จึงไม่มีเหตุผลที่ผู้ประกอบการและร้านค้าจะใช้เป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคาอาหารปรุงสำเร็จ
“การลอยตัวราคาก๊าซหุงต้มตามตลาดโลกอาจจะส่งผลดีทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์ หากราคาก๊าซแอลพีจีในตลาดโลกปรับตัวลดลง และยังมีการประเมินว่าราคาแอลพีจีตลาดโลกจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับนี้ต่อเนื่องอย่างน้อยอีก 2-3 ปี ทำให้แรงกดดันต่อราคาอาหารปรุงสำเร็จไม่น่าจะเกิดขึ้น” นางนันทวัลย์กล่าว
นางนันทวัลย์กล่าวว่า กรมฯ ได้มีทางเลือกในการบริโภคอาหารปรุงสำเร็จราคาประหยัดให้แก่ประชาชนและผู้มีรายได้น้อยอยู่แล้ว โดยมีร้านอาหารหนูณิชย์ที่จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จราคาประหยัดเมนูละ 35 บาท ซึ่งขณะนี้มีจำนวนร้านกว่า 1.2 หมื่นร้านทั่วประเทศ และกำลังผลักดันให้มีร้านหนูณิชย์ที่ได้รับการติดดาว ซึ่งเป็นร้านที่มีคุณภาพมาตรฐานให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภค กรมฯ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่ทำการตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาหารปรุงสำเร็จ และสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ทั้งในตลาดสด ห้างสรรพสินค้า โดยหากประชาชนพบเห็นการเอาเปรียบหรือจำหน่ายสินค้าในราคาไม่เป็นธรรมสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569