ผู้จัดการรายวัน 360 - เสี่ยใหญ่สหพัฒน์ชี้ ศก.ไทยจ่อฟื้นตัวดีขึ้น มั่นใจปีหน้าดีเต็มตัว ทุ่ม 3,000 ล้านบาทลุยลงทุนหลังอั้นมา 2 ปี พร้อมแผนเพิ่มทุน 4,000 ล้านบาทบริษัท SPI รองรับโครงการ EEC
นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยครึ่งปีหลังปี 2560 นี้คาดว่าน่าจะเริ่มดีขึ้น และจะดีเพิ่มขึ้นในปี 2561 ซึ่งขณะนี้ราคาพืชผลทางเกษตรดีขึ้น อีกทั้งภาครัฐบาลเองก็เดินหน้าโครงการกระตุ้นต่างๆ เต็มที่ส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจ
จากนี้สหพัฒน์จะลงทุนมากขึ้น หลังจากที่ชะลอการลงทุนมานานกว่า 2 ปีแล้วเพื่อรองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่จะดีขึ้นในปีหน้าพอดี ซึ่งปีนี้คาดว่าจะลงทุนไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ในโครงการต่างๆ เช่น โครงการลงทุนมากกว่าพันล้านบาท ในการขยายการผลิตแอร์แบ็ก โตโยโบ โครงการลงทุนย้ายฐานการผลิตบางอย่างที่มีฐานผลิตเดิมทั้งในกรุงเทพฯ และที่อื่นตามความเหมาะสม ไปอยู่ที่แม่สอดเช่น โรงงานผลิตผ้าลูกไม้ ผลิตถุงเท้า แม่สอดซากาเอะ พื้นที่ 4 ไร่กว่า เป็นต้น
โครงการก่อสร้างไทเกอร์สุวรรณภูมิดีซี ลงทุนมากกว่า 1,500 ล้านบาท พื้นที่ 50 ไร่ ขนาด 70,000 กว่าตารางเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นดีซีที่มีขนาดใหญ่มาก บริเวณใกล้กับสุวรรณภูมิ เพื่อใช้เป็นแวร์เฮาส์ในเครือทั้งหมด เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการขนส่งและบริหารสินค้า และหากมีพื้นที่เหลือก็จะรับบริการภายนอกเครือด้วย การลงทุนเพิ่มเพื่อขยายธุกริจด้านบริการเช่น คอลล์เซ็นเตอร์ การร่วมมือกับทางเว๊บไซต์ลาซาด้าเพื่อนำสินค้าไปจำหน่ายช่องทางออนไลน์
นอกจากนั้นจะมีการเพิ่มทุนในบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด ที่เป็นผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรม บริเวณมาบตาพุดของบริษัท เพื่อรองรับกับโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี โดยจะเพิ่มทุนอีก 4,000 ล้านบาท เพื่อขยายศักยภาพและพัฒนาพื้นที่นิคมฯให้สมบูรณ์ขึ้น ซึ่งโครงการอีอีซีนี้เป็นโครงการดีที่หากทำสำเร็จจะส่งผลให้ประเทศไทยรุ่งเรืองมากขึ้นกว่าประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ยังไม่มีโครงการประเภทนี้
นายบุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาะวะเศรษฐกิจของไทยช่วง 5 เดือนแรกปี 2560 นี้ยังไม่กระเตื้องเท่าที่ควร ส่งผลต่อกำลังซื้อโดยรวมของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวมากนัก แต่เชื่อว่าจากนี้ไปเศรษฐกิจไทยจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวต้องการเสนอความคิดเห็นให้รัฐบาล จัดโครงการ ชอปช่วยชาติ ทุกเดือน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถช่วยกระตุ้นการจับจ่ายและเศรษฐกิจโดยรวมได้ดี ส่วนมาตรการการลดภาษีนำเข้าสินค้าแฟชันหรือเครื่องสำอางค์หรือสินค้าฟุ่มเฟือยนั้น มองว่าไม่ได้ส่งผลดีหรือกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจ เพราะจะยิ่งทำให้คนไทยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และเป็นเรื่องที่ส่งผลดีต่อผู้ทำธุรกิจมากกว่าที่จะส่งผลดีต่อผู้บริโภค