“พาณิชย์” เตรียมเปิดประมูลข้าวที่ไม่ใช่คนบริโภคล็อตสุดท้าย 2.2 ล้านตัน เตรียมชี้แจงทีโออาร์วันที่ 7 มิ.ย. ก่อนเปิดให้ยื่นเสนอราคาวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ด้าน อคส.เรียกผู้ชนะการประมูลข้าวเสื่อมเข้าอุตสาหกรรม 10 รายมาชี้แจงขั้นตอนการขนย้าย เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวไหลกลับเข้าสู่ตลาดปกติ
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ออกประกาศการระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาลเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่คนบริโภค ครั้งที่ 2/2560 ซึ่งเป็นข้าวกลุ่ม 2 หรือข้าวที่มีเกรดซีปนเกิน 20% ขึ้นไป ปริมาณ 2.2 ล้านตัน โดยเป็นข้าวล็อตสุดท้ายในกลุ่มนี้ และได้กำหนดการชี้แจงให้กับผู้ที่สนใจในวันที่ 7 มิ.ย. 2560 ก่อนจะเปิดคลังให้ผู้สนใจเข้าชมระหว่างวันที่ 6-12 มิ.ย. 2560 จากนั้นให้ยื่นซองคุณสมบัติวันที่ 13 มิ.ย. 2560 และจะประกาศคุณสมบัติและเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 15 มิ.ย. 2560
พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า วันที่ 6 มิ.ย.ได้เชิญผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 1/2560 จำนวน 10 ราย ได้แก่ บจก.กบินทร์อินทรีย์ บจก.วธนทรัพย์ บจก.นอร์ทอีสรับเบอร์ บจก.พิจิตรไบโอเพาเวอร์ บจก.จริชัยโปรดิ้วซ์ บจก.ที.ซี.เอส.แป้งมันอุตสาหกรรม บจก.ยูอาร์ซีพาวเวอร์ บจก.พัทยา-ไทย บจก.กำแพงเพชรไบโอพาวเวอร์ และ บจก.ชิโน-ไทยอะโกรโปรดักส์ มาชี้แจงทำความเข้าใจในขั้นตอนการขนย้ายข้าวเสื่อมออกจากคลัง
ทั้งนี้ ได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กรมวิชาการเกษตร กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจทางหลวง มาร่วมรับฟัง เพื่อวางมาตรการในการควบคุมในการขนย้ายออกจากคลังสินค้าต้นทางไปยังคลังสินค้าปลายทางด้วย
สำหรับการดูแลการขนย้าย กำหนดให้คลังสินค้าที่ปลายทางจะต้องติดตั้งกล้อง CCTV และต้องรายงานข้อมูลสินค้าผ่านเว็บไซต์ อคส. ที่ www.pwo.co.th เพื่อรายงานให้เจ้าหน้าที่ อคส.รับทราบ และเมื่อขนย้ายข้าวถึงสถานที่ปลายทางแล้ว อคส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสุ่มตรวจปริมาณข้าวอีกครั้งว่าตรงตามปริมาณการขนย้ายหรือไม่ หาก อคส.ตรวจพบว่าผู้ซื้อไม่นำข้าวสารเข้าสู่กระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมตามที่ได้แจ้งไว้ในวัตถุประสงค์ที่ขอซื้อจะต้องชำระค่าปรับ 25% ของมูลค่าข้าวสารที่ไม่ได้นำเข้าสู่กระบวนการอุตสาหกรรม และหาก อคส.เลิกสัญญา ผู้ซื้อจะต้องเสียค่าปรับ 25% ของมูลค่าปริมาณข้าวสารที่ยังไม่ได้รับมอบและขนย้าย รวมทั้งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญาด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าข้าวเสื่อมดังกล่าวจะไม่ไหลกลับเข้าสู่ระบบการบริโภคปกติ
ก่อนหน้านี้ กรมการค้าต่างประเทศเปิดประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา โดยได้อนุมัติขายให้ผู้ชนะการประมูล 10 ราย ปริมาณ 5 แสนตัน ใน 53 คลัง ใน 19 จังหวัด มูลค่า 1,020 ล้านบาท และได้มอบหมายให้ อคส. และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคลังสินค้าปลายทาง กำหนดเงื่อนไขการขนย้าย ก่อนที่จะมีการลงนามในสัญญา