รฟม.ชี้แจงผิวจราจรแยกรัชโยธินไม่ได้ทรุดตัว ระบุเป็นปัญหาการปิดคืนฝาบ่อพักท่อรวบรวมน้ำเสียทำผิวจราจรเกิดการต่างระดับกับถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้าทำให้รถต้องชะลอ พร้อมกำชับผู้รับจ้างนำยางมะตอยเสริมผิวบริเวณปากบ่อพักแล้ว
กองสื่อสารองค์กร สำนักผู้ว่าการการรรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไดีชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเกิดเหตุดินทรุดตัวที่บริเวณพื้นผิวถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาเข้า บริเวณแยกรัชโยธินในช่วงเช้าของวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัด รวมทั้งมีการเผยแพร่ภาพของถนนทรุดตัวออกไปว่า
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2560 ในช่วงเวลากลางคืน บมจ.อิตาเลียนไทยฯ ผู้รับจ้างก่อสร้างโยธา สัญญาที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้ทำการเบี่ยงการจราจรบนถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้า บริเวณแยกรัชโยธิน (ฝั่งเมเจอร์รัชโยธิน) จากปกติมี 3.5 ช่องจราจร คงเหลือ 1 ช่องจราจร โดยดำเนินการเปิดฝาบ่อพักท่อรวบรวมน้ำเสียเพื่อทำการรื้อย้ายท่อรวบรวมน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร
แต่เนื่องจากการก่อสร้างบ่อพักท่อรวบรวมน้ำเสียมีอุปสรรคเกิดความล่าช้า ทำให้การปิดคืนฝาท่อพักมีระยะเวลาจำกัด เนื่องจากจะต้องคืนผิวจราจรในช่วงเช้า โดยผู้รับจ้างฯ ได้ทำการปิดคืนฝาบ่อพักท่อและยกเลิกการเบี่ยงจราจรในช่วงเช้าของวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 เวลา 05.30 น. ส่งผลให้การคืนผิวจราจรบริเวณดังกล่าวมีความต่างระดับกับผิวถนน และยานพาหนะที่สัญจรผ่านจำเป็นต้องชะลอความเร็ว ทำให้การจราจรหนาแน่นสะสมจนเกิดหางแถวบนถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้า
ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาถนนทรุดตัวตามที่ปรากฏในข่าวแต่อย่างใด และภาพที่เผยแพร่ออกไปนั้นเป็นภาพของการดำเนินงานรื้อย้ายท่อรวบรวมน้ำเสีย มิใช่ภาพดินทรุดตัวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม รฟม.ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างฯ แก้ไขปัญหาโดยทันที โดยผู้รับจ้างได้นำยางมะตอยเสริมผิวการจราจรบริเวณปากบ่อพักดังกล่าวแล้ว และประชาชนสามารถใช้ถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้าได้ 3 ช่องจราจร โดยสภาพปัญหาการจราจรได้คลี่คลายในเวลา 07.45 น. และ รฟม.ขออภัยในความไม่สะดวก