ทอท.เดินหน้าความร่วมมือ Sister Airport กับสนามบินหลวงพระบาง พัฒนาองค์ความรู้ความปลอดภัยการบิน และการพัฒนาเชิงพาณิชย์ การตลาดเพิ่มรายได้ Non Aero ด้านลาวเผยเตรียมขยายสนามบินหลวงพระบาง และมีแผนพัฒนาขีดความสามารถสนามบินในอีก15 ปี รองรับท่องเที่ยวอาเซียน
นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงโครงการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยาน หรือ Sister Airport Agreement หรือ SAA ระหว่าง ทอท. กับท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่า ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบางเป็น 1 ใน 15 ท่าอากาศยานที่บันทึกความร่วมมือ SAA กับ ทอท.ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ เทคนิคต่างๆ ให้กับบุคลากร โดยเฉพาะมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านการบิน แผนโดยเฉพาะแผนฉุกเฉินต่างๆ การดับเพลิง การกู้ภัย การซ่อมบำรุงรักษา การบริหารจัดการผู้โดยสาร รวมถึงการส่งเสริมด้านตลาดร่วมกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพของสนามบินในภูมิภาคอาเซียน
ด้านนายสมบูรณ์ ดาวสะหวัน ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานลาว (LAA) กล่าวว่า ลาวมีสนามบินระหว่างประเทศจำนวน 4 แห่ง สนามบินภายในประเทศ 8 แห่ง ซึ่งปัจจุบัน สนามบินหลวงพระบางมี 7 สายการบิน ให้บริการประมาณ 17-18 เที่ยวบิน/วัน และสูงสุดถึง 20 เที่ยวบิน/วัน และผู้โดยสารเฉลี่ย 1 ล้านคน/ ปี แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 5-6 แสนคน/ปี ผู้โดยสารภายในประเทศ 3.5 แสนคน/ปี
ทั้งนี้ ปัจจุบันสนามบินเริ่มแออัดแล้ว รัฐบาลลาวมีแผนขยายขีดความสามารถของสนามบินหลวงพระบาง โดยในระยะแรก 3-4 ปีนี้จะเป็นการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเคาน์เตอร์ เพื่อระบายผู้โดยสารช่วงเวลาเร่งด่วน และในอนาคตจะมีการปรับปรุงและขยายอาคารผู้โดยสารต่อไป
ส่วนสนามบินอื่นๆ รัฐบาลลาวมีแผนขยายขีดความสามารถเพื่อรองรับการเติบโตและปริมาณเที่ยวบิน และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ภายใน 15 ปี และรองรับ AEC โดยอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลในการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ด้วย ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มการรองรับผู้โดยสารได้อีก 5-6 ล้านคน/ปี ขณะที่การปรับปรุงสนามบินวัตไตจะแล้วเสร็จในปี 2561 ทั้งนี้ รัฐบาลลาวให้ความสำคัญในเรื่องไม่ตัดไม้ทำลายป่า ดังนั้นการขยายหรือก่อสร้างสนามบินใหม่จึงต้องให้ความสำคัญต่อเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างมากด้วย
นายสมบูรณ์กล่าวว่า ปัจจุบันสนามบินส่วนใหญ่ของลาวประมาณ 8 แห่งยังมีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย โดยมีเพียง 2 แห่งที่มีกำไร คือ หลวงพระบาง และวัตไต ซึ่งได้นำรายได้ส่วนหนึ่งไปอุดหนุนสนามบินที่ขาดทุน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้จัดงบประมาณอุดหนุน และมีนโยบายยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสายการบินใน 3 สนามบินเพื่อจูงใจให้มาใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ในแง่การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ทางสนามบินของลาวได้ศึกษาแลกเปลี่ยนจาก ทอท.ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสนามบิน เช่น สนามบินเชียงรายให้กลับมามีรายได้ที่ดี เป็นต้น
ขณะที่นายวิลาศักดิ์ วรรณจิต ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิควิชาการท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง เปิดเผยว่า ความร่วมมือดังกล่าวช่วยยกระดับบุคลากรด้านการรักษาความปลอดภัยของสนามบินหลวงพระบางเป็นมาตรฐานมากขึ้น และจะมีความร่วมมือด้านต่างๆ มากขึ้นเนื่องจากรัฐบาลลาวมีแผนพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง