บอร์ด ทอท.โยก ผอ.สนามบินภูเก็ตเข้า สนง.ใหญ่ รับหน้าที่รองเอ็มดี ดูแลงานด้านมาตรฐานการบิน โดยโยก “เพ็ชร ชั้นเจริญ” จากดอนเมืองไปคุมแทน คาดเพื่อปรับแก้การบริหารสนามบินใหม่ ขณะที่ส่ง “สุธีรวัฒน์” มือก่อสร้างคุมดอนเมืองเพื่อเร่งพัฒนาเฟส 3
แหล่งข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติโยกย้ายผู้บริหารระดับ 11 จำนวน 3 คน ได้แก่ 1. นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ย้ายมาดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานมาตรฐานท่าอากาศยานและการบิน) 2. น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานมาตรฐานท่าอากาศยานและการบิน) ไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง 3. นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 2560
โดยสาเหตุการโยกย้ายครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพราะต้องการปรับเปลี่ยนผู้บริหารให้เหมาะสมกับเนื้องาน เช่น สนามบินภูเก็ต ได้มีการขยายศักยภาพ ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 มูลค่าการลงทุนราว 1.4 หมื่นล้านบาท รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 25 ล้านคนต่อปี เป็นช่วงที่ต้องบริหารจัดการ (Operation) อย่างดี ซึ่งนายเพ็ชร ชั้นเจริญ ถือเป็นผู้ที่มีความชำนาญด้านการ Operation โดยก่อนหน้านี้ได้บริหารสนามบินดอนเมืองได้ดีระดับหนึ่ง ขณะที่ นางมนฤดี เกตุพันธุ์ มีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัย การโยกให้มาดูสายงานมาตรฐานท่าอากาศยานและการบินจะช่วยในเรื่องที่ ICAO จะเข้ามาตรวจสอบท่าอากาศยานของไทย ตามโครงการ Security Audit Programme : USAP ในเดือน ก.ค.นี้อีกด้วย
ขณะที่ น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ มีความเชี่ยวชาญมาจากสายงานก่อสร้าง ซึ่งการไปคุมสนามบินดอนเมือง ซึ่งจะมีโครงการพัฒนาสนามบินดอนเมืองระยะที่ 3 รองรับปริมาณเที่ยวบิน 40-50 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ 40 ล้านคนต่อปี
รายงานข่าวแจ้งว่า ปกติการโยกย้ายของ ทอท.จะเป็นช่วงเดือน เม.ย. และเดือน ก.ย.-ต.ค. ครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งมีอีกกระแสข่าวระบุว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาสนามบินภูเก็ต ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องความแออัด และต้องเร่งพัฒนาปรับปรุงการให้บริการให้มีความสะดวก ภายใต้แผนพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถ รวมถึงเมื่อมีผู้ใหญ่ระดับสูงเดินทางไปภูเก็ตมักไม่เห็นผู้บริหารสนามบินภูเก็ต จึงอาจจะเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนดังกล่าว