xs
xsm
sm
md
lg

ทล.ศึกษาข้อ กม.ต่อโทลล์เวย์ “รังสิต-บางปะอิน” เคลียร์ปมแข่งขันทางด่วน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมทางหลวงจ้างศึกษาข้อกฎหมายส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงรังสิต-บางปะอิน หวั่นติดปัญหาเป็นทางแข่งขันกับทางด่วนอุดรรัถยา (สายบางปะอิน-ปากเกร็ด) คาดสรุปในปีนี้ คาดเสนอ ครม.เดินหน้าประมูลเอกชนร่วมทุน PPP Net-Cost

นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาข้อกฎหมายในการดำเนินโครงการส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ช่วงรังสิต-บางปะอิน ในประเด็นข้อกฎหมายเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการที่ไม่กระทบต่อสัญญาของบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (บีอีเอ็ม) ที่สัมปทานโครงการทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เนื่องจากในสัญญาของทางพิเศษอุดรรัถยา (สายบางปะอิน-ปากเกร็ด) ระบุห้ามมีทางแข่งขันในรัศมี 5 กม. ซึ่งแนวทางยกระดับช่วงรังสิต-บางปะอิน ช่วงโรงกษาปณ์ จะมีระยะห่างจากทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ประมาณ 3.5 กม. ดังนั้น ต้องศึกษาข้อกฎหมายเพื่อความรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบ

ส่วนผลกระทบต่อสัมปทานโครงการทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) หรือทางยกระดับดินแดง อนุสรณ์สถานฯ กับบริษัททางยกระดับดอนเมือง จำกัด นั้นไม่มีปัญหา เนื่องจากเป็นการก่อสร้างต่อจากทางยกระดับอนุสรณ์สถานฯ รังสิต ซึ่งเป็นโครงการของกรมทางหลวง และไม่มีการเก็บค่าผ่านทางอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบต่อสัมปทานของดอนเมืองโทลล์เวย์ 

ทั้งนี้ กรมฯ ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาวงเงินประมาณ 2 ล้านบาท ระยะเวลาศึกษา 6 เดือน ซึ่งจะสรุปผลในปีนี้ จากนั้นจะนำเสนอโครงการตามขั้นตอน ซึ่งการศึกษาประเมินค่าลงทุนส่วนต่อขยายทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงรังสิต-บางปะอิน ที่ประมาณ 30,538 ล้านบาท โดยจะใช้รูปแบบ PPP-Net Cost รัฐรับผิดชอบค่าเวนคืน ส่วนเอกชนลงทุนก่อสร้างทางและระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง รวมถึงการบำรุงรักษา ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี ซึ่งจะรวมเวลาก่อสร้างไว้ด้วย โดยโครงการถือว่ามีความคุ้มทุน มีอัตราส่วนผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ (EIRR) 18.2% มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 15,531 ล้านบาท และอัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน (B/C Ratio) เท่ากับ 1.98

โดยมีค่าก่อสร้าง 30,030 ล้านบาท แนวเส้นทางใช้พื้นที่เกาะกลางถนนพหลโยธินเป็นส่วนใหญ่ จะมีการเวนคืนไม่มากบริเวณปลายทางเพื่อทำแลมป์เชื่อมกับทางหลวงพิเศษบางปะอิน-นครราชสีมา โดยมีค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินประมาณ 500 ล้านบาท  ขณะนี้ออกแบบเสร็จแล้ว การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ได้รับอนุมัติแล้ว หากได้รับอนุมัติสามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น