“สมคิด” ผลักดัน “พาณิชย์” เร่งสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก สั่งปรับแนวคิดจากการกำกับดูแลมาเป็นหน่วยงานสนับสนุน เร่งสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยการเปิดตลาดในรูปแบบต่างๆ ให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น พร้อมให้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯ มหาดไทย การท่องเที่ยวฯ เพื่อร่วมกันทำงาน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “กระทรวงพาณิชย์กับการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจท้องถิ่น Local Economy 4.0” ว่า นโยบายของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการยกระดับเศรษฐกิจของชุมชนให้เข้มแข็งเป็นนโยบายที่ดี และรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายว่าต้องการให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง จึงเห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมากิจกรรมที่รัฐบาลดำเนินการจะกระจายไปสู่ท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่
“ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลมุ่งเน้นการพึ่งพาการส่งออก และสนับสนุนการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ ซึ่งในช่วงที่เศรษฐกิจโลกดี การส่งออกของไทยก็ดี เคยขยายตัวได้ถึง 10% จนทำให้หลงลืมที่จะสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นจากภายใน จนนำมาสู่ปัญหาช่องว่างระหว่างสังคมและค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น และเมื่อเศรษฐกิจโลกซบเซา ขยายตัวไม่ถึง 2% การส่งออกและการลงทุนก็ตกต่ำลงไปด้วย การตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในท้องถิ่นจึงเป็นเรื่องที่ต้องรีบดำเนินการก่อนที่จะสายเกินไป” นายสมคิดกล่าว
นายสมคิดกล่าวว่า สิ่งที่กระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งปรับปรุง คือ การปรับความคิดจากหน่วยงานที่เน้นแต่การกำกับดูแลมาเป็นหน่วยงานที่คอยสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ช่วยผู้ประกอบการรายเล็ก คิดหาวิธีพัฒนาสินค้าด้วยเทคโนโลยี หาช่องทางขาย รวมทั้งต้องร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงมหาดไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ลงไปสร้างและสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมในท้องถิ่น เช่น ตลาดชุมชน ตลาดกลาง โดยเฉพาะตลาดสินค้าเฉพาะอย่าง เช่น ตลาดอาหารทะเล ตลาดผลไม้ ตลาดขนมหวาน และตลาดสินค้าโอทอป เป็นต้น ที่จะต้องผลักดันให้มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในอนาคตหากทุกชุมชนสามารถขับเคลื่อนตลาดกลางสินค้า ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าไปจับจ่ายสินค้าในชุมชนโดยตรง ไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างแท้จริง แต่จะช่วยให้สินค้าของชุมชนมีที่ขาย สินค้าเกษตรมีที่ขาย และทำให้ราคาปรับตัวดีขึ้น จนที่สุดจะทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง และนำไปสู่การสร้างความสมดุลของรายได้ในประเทศและลดการพึ่งพาภาคส่งออก ทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมเข้มแข็งได้ยิ่งขึ้น