กรมทางหลวงชนบทเร่งซ่อมสายทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รวม 28 สายทาง ล่าสุดเหลือ 1 สายทางที่ยังสัญจรไม่ได้ สายทาง ลย.3011 จ.เลย เหตุน้ำกัดเซาะทางเบี่ยงขาด เร่งทำสะพานแก้ปัญหา “อธิบดี ทช.” ขอความร่วมมือประชาชนใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในพื้นที่น้ำท่วม “ขับช้า เปิดไฟหน้า” และสังเกตป้ายจราจรเตือน
นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรณีสายทางของ ทช.ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยนั้น ได้กำชับให้แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ดูแลเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานข้อมูลให้ผู้บริหารทราบจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ อีกทั้งให้บูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างรวดเร็ว
โดยปัจจุบันมีสายทางที่ประสบอุทกภัยทั้งหมดจำนวน 28 สายทาง ใน 6 จังหวัด (พะเยา, กำแพงเพชร, เลย, เพชรบูรณ์, อุบลราชธานี, สุโขทัย) เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จำนวน 23 สายทาง อยู่ระหว่างประสบอุทกภัยจำนวน 5 สายทาง สัญจรผ่านได้จำนวน 4 สายทาง
- กพ.4021 (กำแพงเพชร)
- พช.2065, 4004 (เพชรบูรณ์)
- สท.3049 (สุโขทัย)
สัญจรผ่านไม่ได้ จำนวน 1 สายทาง
* น้ำกัดเซาะทางเบี่ยงขาด จำนวน 1 สายทาง
- สายทาง ลย.3011 จ.เลย (ช่วง กม.ที่ 1+000 - 1+070) ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างสะพาน
ทั้งนี้ หลังจากเข้าสู่ภาวะปกติ กรมฯ จะดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นเพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ ภายใน 7 วัน และจะดำเนินการสำรวจ ออกแบบ ประมาณราคา พร้อมภาพถ่ายสภาพความเสียหายหลังน้ำลด เพื่อนำเสนอขอสนับสนุนงบประมาณแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
โดยขณะนี้มีสายทางที่ได้ดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เช่น ถนนทางหลวงชนบท สาย ลย.4017 แยกทางหลวงหมายเลข 2186 (กม.ที่ 135+700) - บ้านเชียงกลม อำเภอปากชม จังหวัดเลย ที่ชำรุดเสียหายจากอุทกภัย ซึ่งขณะนี้สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว
ขอความร่วมมือประชาชน “ขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย” ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และโปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษโดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย และโปรดสังเกตป้ายจราจรเตือนระดับน้ำหรือป้ายหลีกเลี่ยงเส้นทาง โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่สายด่วนทางหลวงชนบท 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ ในวันและเวลาราชการ