“พาณิชย์” ชง นบข.อนุมัติขายข้าวเสื่อม คาดขายไม่หมดทั้งล็อตที่เปิดประมูล เหตุได้ราคาต่ำ

“พาณิชย์” เตรียมเสนอประธาน นบข. เคาะขายข้าวเสื่อมที่เปิดประมูลไป 1.03 ล้านตันสัปดาห์หน้า คาดอนุมัติขายไม่หมดยกล็อต เหตุเสนอราคาต่ำ

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ซึ่งมี น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้พิจารณาผลการเปิดซองราคาเสนอซื้อข้าวสารสต๊อกรัฐบาลเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์ ปริมาณ 1.03 ล้านตัน เบื้องต้นได้ข้อสรุปแล้วและจะนำผลเสนอต่อประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติในสัปดาห์หน้า

ส่วนสาเหตุที่การพิจารณาอนุมัติล่าช้าเพราะข้าวล็อตดังกล่าวเสนอซื้อครบทุกคลังเป็นครั้งแรก และมีระดับราคาที่มีความแตกต่างกันมาก โดยราคาสูงสุดเกือบตันละ 4,000 บาท ส่วนราคาต่ำสุดอยู่ที่ตันละ 500 บาท การพิจารณาอนุมัติจำเป็นต้องดูหลายๆ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ทั้งราคาที่เหมาะสม เมื่อเปรียบกับต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา ตลอดจนคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูล

อย่างไรก็ตาม นบข.จะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ซึ่งกรมฯ จะเสนอรายงานผลการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล และแนวทางการระบายข้าวสารที่เหลืออยู่ทั้งในส่วนของข้าวกลุ่ม 2 หรือข้าวที่มีเกรดซีปนเกิน 20% ที่ต้องระบายเข้าอุตสาหกรรมมิใช่คนบริโภคปริมาณ 2 ล้านตัน และการเปิดประมูลข้าวในกลุ่ม 1 หรือข้าวที่เปิดประมูลเป็นการทั่วไปปริมาณ 1.82 ล้านตัน ที่จะให้ยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 24 พ.ค.นี้ รวมทั้งปริมาณข้าวในกลุ่มที่ 3 หรือข้าวที่เก็บเกิน 5 ปี ผิดชนิด ผิดมาตรฐาน ที่เหลือจากการอนุมัติขายเพื่อนำมากำหนดแผนระบายต่อไป แต่มั่นใจว่าจะระบายข้าวทั้งหมดได้ภายในเดือนก.ย.นี้

รายงานข่าวแจ้งว่า เอกชนที่มาร่วมประมูลข้าวกลุ่ม 3 ปริมาณ 1.03 ล้านตัน มี 21 ราย ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผู้ผลิตเอทานอล ไบโอแมส ไบโอแก๊ส และอุตสาหกรรมที่ผลิตไฟฟ้า โดยมี บริษัทที พี เค เอทานอล ได้ยื่นเสนอซื้อข้าวสารทุกคลังปริมาณ 1.03 ล้านตัน ในราคาเฉลี่ย 2-3 บาท/กก. มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท และรายนี้ยังเป็นผู้เสนอราคาต่ำที่สุดตันละ 500 บาท ในหนึ่งคลังปริมาณ 1,371 ตันด้วย

อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่าข้าวในกลุ่มที่ 3 ที่จะเสนอให้ประธาน นบข.อนุมัติขายในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะมีปริมาณเกิน 50% ขึ้นไป จากปริมาณที่เปิดทั้งหมด 1.03 ล้านตัน