GPSC แจงผลประกอบการไตรมาส 1/2560 มีกำไร 331 ล้านบาท ลดลง 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เผยครึ่งปีหลังมีทิศทางสดใสรับการขยายตัวการใช้ไฟเพิ่มขึ้นและค่า Ft ที่ขยับขึ้น
นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2560 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,366 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย 118 ล้านบาท หรือลดลง 2% และมีกำไรสุทธิ 749.86 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 121 ล้านบาท หรือลดประมาณ 14% เนื่องจากรับรู้เงินปันผลจากบริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด ลดลง 60 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าIRPC-CP กำไรลดลงจากลูกค้าที่หยุดซ่อมบำรุง
สำหรับทิศทางของธุรกิจไฟฟ้าในไตรมาส 2 ยังคงมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากประมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ปี 2560 เพิ่มขึ้น 68,198 ล้านหน่วย ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ปี 2560 เท่ากับ 5,853 ล้านหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 9.39% ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจขยายตัว
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) ที่จะเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคมเพิ่มขึ้น 12.52 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นปัจจัยหลักการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าไฟฟ้าฐานปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.5079 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 3.7% เป็นผลให้บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากการปรับค่า Ft ที่สูงขึ้น โดยการบริหารสินทรัพย์ตามแผนการดำเนินงาน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ของบริษัทฯ จะเป็นโรงไฟฟ้าที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าประเภทอื่น รวมทั้งบริษัทฯ ยังมุ่งมั่นในการบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด บนภาวะทิศทางของราคาต้นทุนเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติ
นายเติมชัยกล่าวต่อไปว่า ในปี 2560 บริษัทฯ จะมีการรับรู้รายได้เต็มปี จากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งจันทบุรี จำกัด และรับรู้ส่วนของกำไรจากโรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจเนอเรชัน โครงการ 2 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าประเภท SPP ในไตรมาส 3 นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อิจิโนเซกิ โซล่าร์ พาวเวอร์ ในประเทศญี่ปุ่น และโครงการโรงไฟฟ้า ไออาร์พีซี คลีนพาวเวอร์ ระยะที่ 2 ที่จะมีการรับรู้รายได้ในไตรมาส 4
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้กำหนดกลยุทธ์ในการแสวงหาโอกาสการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีแผนในการพัฒนาธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน โดยร่วมกับ บริษัท 24M Technologies สหรัฐอเมริกา ได้บรรลุความร่วมมือในการนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนของ 24M มาผลิตและจำหน่ายในภูมิภาคอาเซียน