KTIS จ่อยื่นขอขยายกำลังผลิตรองรับไบโอคอมเพล็กซ์ KTIS เตรียมยื่น ก.อุตสาหกรรมขอขยายกำลังการผลิตหีบอ้อยเพิ่มที่นครสวรรค์รองรับโครงการไบโอคอมเพล็กซ์ มูลค่า 7 พันล้านบาท ยันบริษัทมีความพร้อมด้านเงินลงทุนแล้ว
นายประเสริฐ ศิริวิริยะกุล กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) เปิดเผยความคืบหน้าการร่วมทุนในโครงการไบโอคอมเพล็กซ์ จังหวัดนครสวรรค์ว่า ขณะนี้ทางพันธมิตรร่วมทุน คือ บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นเสนอรายละเอียดโครงการไบโอคอมเพล็กซ์กับหน่วยงานรัฐ รวมทั้งคาดว่าจะได้ข้อสรุปใน 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งรัฐได้สนับสนุนให้จังหวัดนครสวรรค์เป็นอุตสาหกรรมชีวภาพ (ไบโอฮับ) หลังจากนั้นคาดว่าเริ่มดำเนินโครงการในเฟสแรก มูลค่าโครงการ 7 พันล้านบาท
แหล่งเงินทุนบริษัทฯ มีความพร้อมอยู่แล้ว โดยจะถือหุ้น 50% เนื่องจากก่อนหน้านี้ บริษัทมีแผนที่จะขยายโรงงานหีบอ้อยเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับปริมาณอ้อยในพื้นที่ที่ปัจจุบันมีค่อนข้างมาก แต่เมื่อตัดสินใจร่วมทุนกับทางกลุ่ม PTTGC เพื่อพัฒนาโครงการไบโอคอมเพล็กซ์สนองนโยบายรัฐ จึงได้ชะลอการลงทุนดังกล่าวไป ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีใบอนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรมในการขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 หมี่นตันอ้อย/วัน จังหวัดนครสวรรค์ ดังนั้น บริษัทเตรียมที่จะยื่นขอเพิ่มกำลังการผลิตอีกราว 2 หมื่นตันอ้อย/วันในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในโครงการไบโอคอมเพล็กซ์
ทั้งนี้ ไบโอคอมเพล็กซ์ในเฟส 1 จะมีโรงงานหีบอ้อย 2 หมื่นตันอ้อย/วัน เพื่อนำมาผลิตเป็นเอทานอล 6 แสนลิตร/วัน รวมทั้งมีโรงไฟฟ้าชีวมวล 85 เมกะวัตต์ โดยไฟฟ้าส่วนหนึ่งจะใช้ภายในโครงการ อีกส่วนหนึ่งจะเสนอขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประมาณ 30 เมกะวัตต์
สำหรับราคาน้ำตาลในตลาดโลก ขณะนี้พบว่าราคาอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 16 เซ็นต์/ปอนด์ จากเดิมที่เคยขึ้นไปถึง 20 เซ็นต์/ปอนด์ เนื่องจากมีกำลังการผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้นทั้งจากบราซิล อินเดีย และไทย ขณะที่ปริมาณอ้อยของไทยที่จะเข้าหีบในปีการผลิต 2560/2561 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 110 ล้านตันอ้อยจากปีนี้ที่ 94 ล้านตัน เนื่องจากเกษตรกรหันมาปลูกอ้อยเพิ่มขึ้น