xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” เผยมีเอกชน 11 รายยื่นซื้อข้าวเสื่อมที่เปิดประมูลทั้ง 1.03 ล้านตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เผยมีเอกชน 11 รายยื่นซื้อข้าวเสื่อมทั้งล็อตที่เปิดประมูล 1.03 ล้านตัน มูลค่า 2.7 พันล้านบาท เตรียมชงคณะทำงานพิจารณา ก่อนเสนอคณะอนุกรรมการระบายข้าว หากเห็นชอบจะเสนอให้ นบข. อนุมัติต่อไป เผยมีบริษัททำเอทานอลเสนอซื้อเหมาหมดทุกคลัง ระบุถ้าขายได้หมดจะเหลือข้าวอีกแค่ 4 ล้านตัน ปีนี้ระบายได้หมดแน่

นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 1.03 ล้านตัน เข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่การบริโภคทั้งคนและสัตว์ (กลุ่ม 3) ใน 157 คลัง 34 จังหวัด มีผู้ผ่านคุณสมบัติ 21 ราย จากที่ยื่นซองคุณสมบัติ 22 ราย และยื่นเสนอราคาเข้ามาทั้งหมด 21 ราย แต่มีผู้เสนอราคาสูงสุดจำนวน 11 ราย ใน 157 คลัง ปริมาณ 1.03 ล้านตัน คิดเป็น 100% ของปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด มีมูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 2,752.18 ล้านบาท โดยราคาเสนอซื้อสูงสุดเฉลี่ยประมาณ 2,473.64 บาทต่อตัน

ทั้งนี้ กรมฯ จะนำผลจากการเปิดซองทั้งหมดเสนอต่อที่ประชุมคณะทำงานระบายข้าวในวันที่ 2 พ.ค. 2560 เพื่อพิจารณา ก่อนที่จะเสนอให้คณะอนุกรรมการระบายข้าวในวันที่ 8 พ.ค. 2560 พิจารณาชี้ขาด ก่อนเสนอให้ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติขายต่อไป

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่ายินดีที่การประมูลครั้งนี้มีเอกชน 1 ราย คือ บริษัทที พี เค เอทานอล จำกัด ได้ยื่นเสนอซื้อข้าวทุกคลัง ในราคาเฉลี่ย 2-3 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ถือเป็นการเสนอซื้อครบทุกคลังเป็นครั้งแรกในการเปิดขายข้าวเสื่อมคุณภาพ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะได้ข้าวทั้งหมดหรือไม่ เพราะต้องรอดูว่ารายอื่นมีการเสนอราคาซื้อที่สูงกว่าหรือไม่ หากสูงกว่าก็ต้องขายให้กับผู้ที่ยื่นราคาสูงกว่า แต่ถ้าเป็นคลังที่ไม่มีใครยื่นเสนอราคา ก็ต้องดูว่าราคาของบริษัทที่เสนอซื้อหมดทุกคลังเป็นอย่างไร พอรับได้หรือไม่

นายกีรติกล่าวว่า สำหรับข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล หากมีการอนุมัติขายข้าวเสื่อมในกลุ่ม 3 ได้ครบทั้ง 1.03 ล้านตัน จะทำให้เหลือข้าวในสต๊อกอีกประมาณ 4 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวกลุ่ม 1 หรือข้าวที่เปิดประมูลเป็นการทั่วไปประมาณ 1.72 ล้านตัน ซึ่งกำหนดจะเปิดประมูลอีกครั้งในเดือน พ.ค.นี้ และข้าวกลุ่ม 2 หรือข้าวที่เปิดประมูลเข้าอุตสาหกรรมมิใช่การบริโภคของคน ปริมาณ 2.15 ล้านตัน มีแผนจะเปิดประมูลในเดือน มิ.ย. โดยยืนยันว่าภายในปีนี้น่าจะระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาลออกไปได้หมด แต่หากไม่หมดและคงเหลือประมาณ 1-2 ล้านตันก็ไม่น่ากังวล เพราะข้าวจำนวนดังกล่าวสามารถเก็บเป็นสต๊อกเพื่อความมั่นคง และไม่กดดันราคาข้าวในตลาด

ส่วนการส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 เม.ย. 2560 สามารถส่งออกได้แล้ว 3.87 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มูลค่า 5.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.76% โดยแนวโน้มการส่งออกข้าวยังคงสดใสเนื่องจากมีหลายตลาดสนใจซื้อข้าวไทย เช่น ศรีลังกามีความต้องการซื้อข้าวไทย 2 แสนตัน โดยได้จัดส่งตัวอย่างไปให้ศรีลังกาพิจารณาแล้ว ส่วนโมซัมบิกต้องการที่จะซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับไทย และบังกลาเทศจะมีการลงนามเอ็มโอยูซื้อขายไทยในช่วงการประชุมคณะกรรมการร่วมการค้า (เจซี) ระหว่างกัน

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขอิหร่านได้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจโรงงานไทยเพิ่มอีก 4 แห่ง ซึ่งจะเป็นช่องทางในการส่งออกข้าวไปตลาดอิหร่านได้เพิ่มขึ้น อิรักจะมีการหารือกับไทยในเรื่องการนำเข้าข้าว ในช่วงการประชุมไทยแลนด์ ไรซ์ คอนเวนชัน ช่วงเดือน พ.ค. ขณะที่จีน รมว.พาณิชย์ไทยได้ส่งหนังสือไปที่หน่วยงานจีนเพื่อขอให้มีการลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายข้าวล้านตันที่ 2 ภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบันแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น