กพท.มอบ AOC ให้สายการบินไทยแอร์เอเชียเป็นรายที่ 2 ขณะที่ การบินไทยจ่อคิวรับในต้นเดือน พ.ค. “จุฬา” เผย พ.ค.จะมอบ AOC ให้ได้รวม 5 สายการบิน คงแผนยื่น ICAO ตรวจซ้ำ มิ.ย. หวังปลดธงแดงได้ในปี 60 “อาคม” เน้นเปิดตลาด เพิ่มความถี่ เส้นทางจีน, อาเซียน ลุ้นแก้มาตรฐาน ICAO หนุน FAA ขยับเกรดเปิดทาง การบินไทยเปิดเส้นทางบินเข้าอเมริกาได้อีกครั้ง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC Re-certification) ให้กับสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2560 ว่า ถือเป็นความคืบหน้าในการเดินหน้าสร้างมาตรฐานทางการบินของประเทศไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มอบ AOC ให้กับสายการบินบางกอกแอร์เวย์สไปเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2560 และสายการบินที่จะได้รับมอบ AOC ต่อไปคือ การบินไทย
ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าในความร่วมมือของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และสายการบินในการแก้ปัญหาการบินพลเรือนของไทย ให้สามารถปลดธงแดง และสร้างความเชื่อมั่นกับประเทศไทย ซึ่งจะสร้างโอกาสทางการตลาดของไทยให้เป็นศูนย์กลางการบิน (ฮับ) ในภูมิภาคอาเซียน และเอเชียแปซิฟิก
“อยากให้ทุกๆ สายการบิน แม้ว่าจะยังไม่ได้ปลดธงแดง แต่ขอให้ดูตลาดการบินในประเทศที่มีโอกาสขยายเส้นทางและเที่ยวบินเพิ่ม โดยเฉพาะประเทศที่ไม่ติดใจในธงแดงมากนัก ซึ่งการที่สายการบินทยอยได้รับ AOC ใบใหม่น่าจะสร้างความเชื่อมั่นได้มากขึ้น เช่น ตลาดประเทศจีน ประเทศในอาเซียน” นายอาคมกล่าว
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า ใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC Re-certification) จะมีอายุ 5 ปี ซึ่ง กพท.ได้แจ้งให้ผู้ที่ได้รับ AOC ใหม่ไปแล้ว 2 ราย คือ บางกอกแอร์เวย์ส และไทยแอร์เอเชีย ว่าจะมีการตรวจสอบ หรือ Audit มาตรฐานตลอดเวลาทุกๆ ปี โดยในแต่ละปีจะมีแผนการตรวจสอบไว้ว่าจะเป็นเรื่องอะไรบ้าง เพื่อให้คงมาตรฐานตามที่ ICAO กำหนดตลอดเวลา
สำหรับ ไทยแอร์เอเชีย ถือเป็นสายการบินรายที่ 2 ที่ได้รับ AOC และเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ (Low cost) รายแรก และในเดือน พ.ค.นี้คาดว่าจะออก AOC ใหม่ให้อีก 5 สายการบิน โดยเริ่มจากวันที่ 2 พ.ค.นี้จะออก AOC ใหม่ให้กับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขเอกสารคู่มือ และต่อไปจะเป็น ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์,นกสกู๊ต,ไทยสมายล์, นกแอร์ และประเมินว่าภายในเดือน มิ.ย.จะออกAOC ใหม่ให้ได้รวม 8-9 สาย
โดยความคืบหน้าในการประเมินอีก 6 สายการบินในกลุ่มแรกนั้น มี 4 สายการบินอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือการตรวจสอบภาคปฏิบัติแล้ว โดยไทยสมายล์แอร์เวย์ส และไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ อยู่ในช่วงเริ่มขั้นตอนที่ 4.1 ซึ่งเป็นการตรวจสอบสำนักงาน ขณะที่อีก 2 สายการบิน คือ นกแอร์ และนกสกู๊ต อยู่ระหว่างการแก้ไขข้อบกพร่อง และคาดว่าน่าจะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 4.2 การตรวจสอบภาคอากาศได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้
ส่วนสายการบินในกลุ่มแรกที่กำลังอยู่ในขั้นตอนที่ 3 การตรวจเอกสาร คือ K-Mile Air และ Orient Thai Airlines ซึ่งเป็นขั้นตอนเดียวกันกับอีก 3 สายการบินจากกลุ่มที่ 2 คือ ไทยไลอ้อนแอร์, NewGen Airways และ Mjets
กพท.ได้ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) 33 ข้อมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปรับปรุงทั้งกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง, ขั้นตอนการทำงาน, คู่มือ Checklist, แบบฟอร์มสำคัญ รวมถึงจัดการอบรมที่เหมาะสมให้กับพนักงานและผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนปรับปรุงการตรวจประเมินออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO กำหนด โดยขณะนี้มีความก้าวหน้าในการแก้ไข SSC มากกว่าร้อยละ 75 แล้ว และล่าสุดได้แจ้งความคืบหน้าต่อ ICAO ผ่านระบบ On line Framework (OLF) เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2560 คาดว่า กพท.จะสามารถยื่นเรื่องเชิญให้ ICAO มาตรวจสอบ ICVM (ICAO Coordinated Validation Mission) เพื่อขอปลดธงแดงได้ภายในเวลาที่กำหนดคือ 30 มิถุนายน 2560
ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขของ ICAO ได้กำหนดให้หลังจากเดือนมิถุนายนสายการบินที่ไม่ผ่านการประเมินจะต้องหยุดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ กพท.จึงได้เชิญ 16 สายการบินมาร่วมประชุมเพื่อแจ้งเงื่อนไขและรับฟังความคิดเห็นจากสายการบินไปแล้วเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา
โดยหลังยื่นทาง ICAO จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จะตอบว่าจะมาตรวจเมื่อใด ซึ่งคาดว่าจะมาตรวจซ้ำประมาณเดือน ก.ย.-ต.ค. ซึ่งจะมีเวลาอีก 3 เดือนหลังยื่น คาดว่าจะปลดธงแดงได้ในปี 60 นอกจากนี้ ในช่วงเดือน มิ.ย.ทาง กพท.จะรายงานความคืบหน้าการแก้ข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) 33 ข้อ ให้ทางสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration : FAA) รับทราบ ซี่งได้ประกาศลดอันดับไทยให้อยู่ใน Category 2
ซึ่งประเด็นของ FAA มีประมาณ 20 ข้อ หลักๆ จะเป็นเรื่องการออกใบอนุญาตนักบิน โดยมีนักบินประมาณ 2,000 รายที่ต้องมาทำการสอบใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ทั้งนี้ กพท.จะต้องแจ้งแผนงานให้ FAA ตรวจส่วนระยะเวลาในการสอบนักบินใหม่ ไม่น่ามีปัญหา เพราะ FAA เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ทั้งนี้ หาก FAA ปรับอันดับไทยอยู่ใน Category 1 จะทำให้สายการบินไทยสามารถบินเข้าสหรัฐอเมริกาได้
สำหรับสายการบินภายในประเทศประมาณ 13 สายนั้น คาดว่าจะเริ่มขั้นตอนเพื่อออก AOC ใหม่ได้ในเดือน ม.ค. 2561
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า “ไทยแอร์เอเชีย ในฐานะผู้ให้บริการการเดินอากาศ มุ่งมั่นในการดำเนินงานตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในระดับสากล รวมทั้งการพัฒนาการให้บริการอยู่ตลอด โดยตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาเราทำงานร่วมกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบและประเมินผล จนสามารถผ่านการตรวจสอบครบในทุกขั้นตอน โดยได้รับมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ตามมาตรฐาน ICAO ในฐานะสายการบินราคาประหยัดรายแรกของประเทศไทย ในวันนี้”
ทั้งนี้ การได้รับใบรับรองดังกล่าว นอกจากเป็นการยืนยันถึงมาตรฐานของทางสายการบินแล้ว ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับภาพรวมของอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งทางสายการบินก็เชื่อมั่นและยินดีที่จะร่วมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถปลดธงแดงได้ตามกรอบที่วางเอาไว้