“คมนาคม” ตีกลับแผนลงทุนทางด่วน “พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวน” หลังสภาพัฒน์-คลังให้ความเห็นใช้เงินกู้ระยะสั้นช่วงเริ่มต้นไปก่อนเหตุกองทุน TFF ยังไม่คืบ แนะบอร์ด กทพ.ทบทวนมติใหม่ ปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ พร้อมเสนอ ครม.เดินหน้าตาม Action Plan 60
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการลงทุนโครงการก่อสร้างทางพิเศษ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนฯ ด้านตะวันตก ว่า ตามแผนงานที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้เสนอมายังกระทรวงคมนาคมและเป็นมติของคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. ที่มีพลเอก วิวรรธน์ สุชาติ เป็นประธาน ได้เห็นชอบแนวทางการลงทุนโดยใช้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) แต่เนื่องจากทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวงการคลัง มีความเห็นในเรื่องแหล่งเงินทุนว่าควรจะใช้เงินกู้ดำเนินการในระยะแรกไปก่อนระหว่างที่การจัดตั้งกองทุน TFF ยังไม่สำเร็จ ดังนั้น กระทรวงคมนาคมจึงให้ กทพ.กลับไปยืนยันแผนงานใหม่ให้สอดคล้องกับความเห็นของทั้ง 2 หน่วยงาน
ทั้งนี้ ทางกระทรวงคมนาคมมีความเห็นตรงกับกระทรวงการคลัง และสภาพัฒน์ กรณีที่กองทุน TFF ยังจัดตั้งไม่ได้ในขณะนี้ กทพ.ควรกู้เงินมาดำเนินการในระยะแรกไปก่อน และเมื่อจัดตั้งกองทุน TFF ได้แล้วค่อยปรับไปใช้กองทุน TFF ได้เพราะจะไม่ทำให้โครงการต้องล่าช้าออกไปด้วย ซึ่งโครงการก่อสร้างทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนฯ นี้ยังคงดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงการคลังที่ต้องการให้ใช้กองทุน TFF ลงทุน และเป็นโครงการที่อยู่ในแผนปฏิบัติการคมนาคม ปี 2560 (Action Plan 60) ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนยังอยู่ในกรอบเวลา
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ทางกระทรวงการคลังโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้กำหนดให้ กทพ.เป็นหน่วยงานต้นแบบของ กองทุน TFF โดยจะระดมทุนเป็นกองแรกและเป็นรูปธรรม ในโครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนฯ ระยะทาง 16.92 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 32,000 ล้านบาท และบอร์ด กทพ.ได้อนุมัติแผนงานโครงการ โดยใช้ TFF เป็นแหล่งเงินทุน และนำเสนอมายังกระทรวงคมนาคมระยะหนึ่งแล้ว โดยเมื่อสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สภาพัฒน์ และสำนักงบประมาณเห็นว่าในขณะนี้กองทุน TFF ยังไม่ได้จัดตั้งขึ้น และอาจจะใช้เวลาซึ่งอาจจะกระทบต่อแผนงานโครงการได้ ดังนั้น ในระยะแรกจึงเห็นว่า กทพ.ควรกู้เงินระยะสั้นมาดำเนินการก่อน และเมื่อตั้ง TFF ได้แล้วสามารถปรับไปใช้กองทุนเป็นแหล่งเงินได้ ทำให้ไม่ตรงกับแผนงานที่เป็นมติบอร์ด กทพ.ที่อนุมัติไว้ว่าให้ใช้กองทุน TFF ดำเนินโครงการ ดังนั้น กทพ.จึงต้องกลับไปเสนอบอร์ดใหม่เพื่อปรับรายละเอียดรายงานที่จะเสนอ ครม.ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คาดว่ากองทุน TFF ของ กทพ.จะจัดตั้งได้ปลายปี 2559 ซึ่งเตรียมเสนอ ครม.อนุมัติโครงการ และจะเปิดประมูลก่อสร้างได้ประมาณเดือน มี.ค.-เม.ย. 2560 ได้ตัวผู้รับเหมาเดือน พ.ค. 2560 โดยจะแบ่งสัญญาก่อสร้างงานโยธาออกเป็น 4 สัญญา งานระบบ 1 สัญญา แต่ขณะนี้ถือว่าล่าช้าจากแผนเดิมแล้ว