ขสมก.ยกเลิกสัญญารถเมล์ NGV 489 คัน แล้วหลังพิจารณา พบ “เบสท์ริน” ทำผิดสัญญา พิสูจน์แหล่งกำเนิดรถไม่ได้-ส่งมอบรถไม่ครบตามเวลา-ถูกปรับเกินเพดาน “สมศักดิ์” เผยทำหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญา และคาดเสนอ ครม. พ.ค.นี้ พิจารณาแผนซื้อรถใหม่
นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า จากการพิจารณา ปัญหาการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิงจำนวน 489 คัน สัญญาวงเงิน 3,389,710,819.50 บาท ตามคำสั่งศาลปกครองที่ให้ ขสมก.ดำเนินการตามขั้นตอนการตรวจรับรถนั้น คณะกรรมการตรวจรับรถได้ดำเนินการตรวจรับตามคำสั่งศาล ตามขั้นตอนและกระบวนการของการตรวจรับแล้ว ขสมก.ได้พิจารณาข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องและตามสัญญาแล้ว คู่สัญญาทำผิดสัญญา และตามระเบียบ ผอ.ขสมก.เป็นผู้มีอำนาจในการยกเลิกสัญญา ดังนั้นจึงส่งหนังสือถึงบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด แจ้งบอกเลิกสัญญาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันเรียบร้อย แล้ว
โดยจากการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจรับรถ พบว่า (1. คู่สัญญาคือ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ไม่สามารถพิสูจน์แหล่งกำเนิดสินค้าได้ (2.ไม่สามารถส่งมอบรถให้ครบ จำนวน 489 คัน ได้ตามสัญญาภายในวันที่ 29 ธ.ค. 2559 (3. การปรับค่าส่งมอบรถล่าช้าเกินเพดานที่กำหนด ซึ่งตามร่างสัญญาจะให้ปรับเงินได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของวงเงินสัญญาโครงการ
สำหรับรถเมล์ NGV ที่มีการทยอยนำไปจดทะเบียนในชื่อ ขสมก. และติด GPS นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า การจดทะเบียนและติด GPS เป็นการดำเนินการขั้นตอนเงื่อนไขสัญญาก่อนที่ ขสมก.จะพิจารณาตรวจรับ ซึ่ง เบสท์รินฯไม่ได้โต้แย้งใดๆ ดังนั้น เมื่อมีการบอกยกเลิกสัญญาจะต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนกรณีบอกเลิกสัญญา และถอด GPS ซึ่งเป็นของ ขสมก.คืน ขสมก.
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหาร ขสมก.เร่งจัดทำแผนการจัดหารถใหม่ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือน พ.ค. 2560 และเริ่มกระบวนการจัดหารถให้ได้รถใหม่ภายในสิ้นปี 60 ซึ่งขณะนี้เป็นไปได้ทั้งการจัดซื้อรถเมล์ NGV ส่วนหนึ่ง หรือเป็นรถไฮบริดส่วนหนึ่ง หรือเป็นรถไฮบริดทั้งหมด ส่วนโดยสารที่ใช้พลังงานไฟฟ้า จำนวน 200 คันที่เคยเตรียมเสนอ ครม.ไปก่อนหน้านี้ได้นำมาทบทวนในคราวเดียวกันด้วย