“ไออาร์พีซี” ลั่นกลางปีนี้สรุปผลการศึกษาโครงการ Beyond Everest มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท พร้อมมองหาพันธมิตรร่วมทุนต่อยอดธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) เปิดเผยว่าบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภายใต้โครงการ Beyond Everest ซึ่งจะประกอบด้วย 2 โครงการ คือ โครงการผลิตพาราไซลีน (PX) 9 แสนตัน/ปี โดยใช้วัตถุดิบจากโครงการ UHV และโครงการขยายกำลังผลิตแนฟทาแครกเกอร์ ทำให้ได้เอทิลีนเพิ่มอีก 1.8 แสนตัน/ปีและโพรพิลีน 9 หมื่นตัน/ปี คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าผลการศึกษาแล้วเสร็จในกลางปีนี้
เนื่องจากโครงการ Beyond Everest เป็นโครงการขนาดใหญ่ มีมูลค่าการลงทุนสูงทำให้ต้องใช้เวลาดำเนินโครงการประมาณ 4-5 ปีจึงจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ หลังโครงการ Everest สิ้นสุดลงในปีนี้ โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้ลงทุนเองทั้ง 100% ส่วนการลงทุนโครงการต่อยอดผลิตภัณฑ์เอทิลีนและโพรพิลีนที่เพิ่มขึ้นนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะผลิตพลาสติกที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างไร
ทั้งนี้ โครงการ Beyond Everest จะช่วยเพิ่มสัดส่วนการนำน้ำมันดิบมาผลิตเป็นปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นเป็น 28%จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 15% ทำให้ค่าการกลั่นรวมเฉลี่ย (GIM )เพิ่มขึ้นเป็น 20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นายสุกฤตย์กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและดอกเบี้ย (EBITDA) สูงกว่าปีที่แล้วที่ 1.74 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการ UHV เต็มปี และโครงการขยายกำลังผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 3 แสนตัน เป็น 7.75 แสนตันต่อปี ที่จะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2560 ขณะที่โครงการ Everest ในปีนี้จะรับรู้รายได้เพิ่มเป็น 7 พันล้านบาท ขณะที่เป้าหมายกำลังการกลั่นเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 1.83 แสนบาร์เรล/วัน ใกล้เคียงปีก่อนแม้ว่าจะมีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ 1 เดือนก็ตาม
สำหรับโครงการโรงกลั่น และปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ที่ประเทศเวียดนาม ภายใต้โครงการ Victory นั้น บริษัทฯ ตัดสินใจชะลอโครงการออกไปก่อน หลังจากไม่สามารถลงทุนในพื้นที่เดิมได้ทำให้ต้องมองหาทำเลใหม่ โดยจะหันไปร่วมทุนกับโครงการโรงกลั่นน้ำมันในเวียดนามที่อยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ยังไม่ได้มีการเข้าไปเจรจาจนกว่าโครงการดังกล่าวจะมีปัญหาหรือต้องการหาพันธมิตรร่วมทุน