“สนธิรัตน์” ถกหน่วยงานรัฐและเอกชนเดินหน้าผลักดันจันทบุรีเป็น “มหานครแห่งผลไม้ของประเทศ” และ “ฮับผลไม้ของเอเชีย” เหตุเป็นแหล่งเพาะปลูกผลไม้ขึ้นชื่อกว่า 10 ชนิด พร้อมสั่งเพิ่มออปชันตั้งตลาดเฉพาะสินค้าเพื่อเป็นแหล่งขายผลไม้สดและแปรรูป ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาชม ชิม ชอป
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 1 เม.ย. 2560 ได้นำคณะกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อหารือร่วมกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หอการค้าไทย กลุ่มสหกรณ์ และตัวแทนภาคประชาชนในจังหวัดจันทบุรี เพื่อทำแผนผลักดันให้จังหวัดจันทบุรีเป็น “มหานครแห่งผลไม้ของประเทศ” และเป็น “ฮับผลไม้ของเอเชีย” ให้ได้ เพราะจันทบุรีเป็นพื้นที่ปลูกผลไม้ที่สำคัญของประเทศ มีผลไม้ขึ้นชื่อกว่า 10 ชนิด เช่น เงาะ มังคุด ทุเรียน มะม่วง และระกำ เป็นต้น โดยเฉพาะทุเรียนเป็นสินค้ายอดนิยม สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรทั้งการขายในประเทศ และส่งออก
“ทุกฝ่ายเห็นตรงกันที่จะผลักดันให้จังหวัดจันทบุรีเป็นมหานครแห่งผลไม้ของประเทศ และเป็นฮับผลไม้ของเอเชีย เพราะมีศักยภาพสูง ทั้งการเป็นแหล่งผลิตผลไม้สำคัญของประเทศ มีผลไม้หลากหลายชนิด จึงผลักดันให้เกิดได้ไม่ยาก และยังเห็นอีกว่า จันทบุรียังเป็นเมืองอัญมณี สามารถที่จะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางอัญมณีโลกได้ ซึ่งหากผลักดันได้สำเร็จทั้ง 2 เป้าหมายจะช่วยสร้างจีดีพีของประเทศเพิ่มได้ถึง 5 แสนล้านภายใน 5 ปี” นายสนธิรัตน์กล่าว
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายในการผลักดันให้มีตลาดเฉพาะสินค้า ซึ่งตลาดเฉพาะสินค้าจะเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าโดยเฉพาะ เช่น ผัก ผลไม้ อาหารทะเล หรือสินค้าเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น มีจุดเด่นที่ชนิดสินค้าที่เป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยมีของสดและแปรรูปชนิดต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะอยู่ในที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวสามารถซื้อหาผลไม้ได้ตามต้องการ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา เป็นต้น หรืออยู่ในแหล่งผลิตสินค้า เพื่อสะดวกในการรวบรวมและกระจายสินค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ และตลาดปลายทาง เป็นแหล่งรองรับผลผลิตและเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า โดยอาจเป็นได้ทั้งตลาดกลางและตลาดระดับท้องถิ่น
ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดจันทบุรีมีผลไม้เป็นสินค้าสำคัญ จึงเป็นเป้าหมายในการจัดตั้งตลาดเฉพาะสินค้าผลไม้และตลาดแปรรูปผลไม้ เพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดในตลอดฤดูกาลผลิต และยังเป็นการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ผู้ปลูกผลไม้ และคนในท้องถิ่น ทั้งยังเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยว มาชม มาชิม และมาซื้อผลไม้และผลไม้แปรรูป ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจชุมชนมีความเข้มแข็งมากขึ้น