ปตท.สผ.ลุ้นเห็นดีลซื้อกิจการปีนี้ หวังปริมาณสำรองฯ ขยับเพิ่มขึ้น

ปตท.สผ.มั่นใจปีนี้สรุปดีลซื้อกิจการหวังเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียม วอนรัฐเร่งสรุปแหล่งบงกชที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 66 หวั่นกระทบกำลังการผลิตก๊าซฯ ชี้หากยืดเวลาไปหลังปี 62 ปริมาณก๊าซฯ ในอ่าววูบ

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกรรมการบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ปตท.สผ.ให้ความสำคัญในการเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้มากกว่าที่เป็นอยู่เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร โดยจะเพิ่มอัตราส่วนของปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้วต่ออัตราการผลิต (R/P ratio) ให้ได้ 10 ปีในอนาคต จากปัจจุบันบริษัทฯ มี R/P อยู่ 4 ปีกว่าเท่านั้น

โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันในปีนี้จะเริ่มมีเสถียรภาพอยู่ที่ระดับ 50-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จึงน่าจะเป็นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการเจรจาร่วมลงทุนหรือซื้อกิจการแหล่งปิโตรเลียมในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าปีนี้จะเห็นความชัดเจน

ส่วนโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์แอเรีย วัน ซึ่งเป็นโครงการก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ ปตท.สผ.ถือหุ้นอยู่ 8.5% คาดว่าจะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ในปลายปีนี้ หรือต้นปี 2561 รวมทั้งจะเร่งตัดสินใจ FID โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ โดยทั้งสองโครงการนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้ ปตท.สผ.เพิ่มมากขึ้น

นายวิรัตน์กล่าวต่อไปว่า ทาง ปตท.จะร่วมกับ ปตท.สผ. ตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อสร้างมูลค่าในห่วงโซ่ธุรกิจแอลเอ็นจี (LNG Value Chain) ช่วยลดความเสี่ยงและสร้างกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ โดยมองโอกาสการลงทุนในแหล่งโมซัมบิก ซึ่ง ปตท.สผ.ถือหุ้นในธุรกิจขั้นต้น (E&P) อยู่แล้ว โดยมองโอกาสที่จะเข้าไปดำเนินการในส่วนขั้นกลางที่เป็นการนำก๊าซฯ ขึ้นมาแปลงสภาพเป็นของเหลว (LNG Liquefaction) ก่อนนำออกจำหน่าย และในอนาคตจะนำไปสู่การทำ LNG Trading

นางสาวพรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี ปตท.สผ. กล่าวว่า เมื่อมีการตัดสินใจการลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) โครงการโมซัมบิก ทาง ปตท.สผ.จะบันทึกปริมาณสำรองปิโตรเลียมจากแหล่งดังกล่าวตามสัดส่วนการถือหุ้นเข้ามา ทำให้อัตราส่วน R/P เพิ่มขึ้นราว 1 ปีสำหรับการลงทุนพัฒนาในเฟสแรกราว 12 ล้านตัน

สำหรับแหล่งบงกช ซึ่งสัญญาสัมปทานที่จะสิ้นสุดลงในปี 2566 จำเป็นที่รัฐต้องมีนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ดำเนินการได้วางแผนการลงทุนได้ถูกต้อง และทันต่อเวลา โดย ปตท.สผ.ยืนยันว่าพร้อมที่จะลงทุนในแหล่งดังกล่าวไม่ว่ารัฐจะเปิดประมูลในรูปแบบใด หากไม่มีความชัดเจนหลังปี 2562 การลงทุนและกำลังการผลิตก๊าซฯ ในแหล่งบงกชจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด