กรมทางหลวงชี้แจงกรณีการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินในระหว่างที่ขนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ของ บริษัท ศิลามาศ ทรานสปอร์ต จำกัด ที่สถานีตรวจสอบน้ำหนักเกาะคา (ขาออก) จ.ลำปาง เหตุมีการใช้รถลากจูงที่ไม่ได้ขออนุญาตและมีน้ำหนักเกินกำหนด
กรมทางหลวง (ทล.) ได้ชี้แจงกรณีที่มีข่าวในหนังสือสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2560 เรื่องการจับรถบรรทุกน้ำหนักเกินในระหว่างที่ขนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) นั้น รถดังกล่าวเป็นของบริษัท ศิลามาศ ทรานสปอร์ต จำกัด จากท่าเรือชั่วคราวจังหวัดอ่างทอง ไปยังโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงได้กักขบวนเคลื่อนย้ายดังกล่าวไว้ก่อน ทำให้ขบวนรถเทรลเลอร์ที่มีขนาดใหญ่ และยาวได้เคลื่อนย้ายไปจอดที่บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชนครลำปาง อ.เกาะคา จ.ลำปาง
กรมทางหลวงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วขอเรียนว่า บริษัท ศิลามาศ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้ดำเนินการขออนุญาตรถบรรทุกที่ขนส่งตามหลักเกณฑ์การขออนุญาตให้ยานพาหนะเดินบนทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงสัมปทาน ตามประกาศผู้อำนวยการทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงสัมปทาน ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2548 อย่างถูกต้อง แต่ในระหว่างการขนส่งได้มีรถบรรทุกลากจูงเสีย
ซึ่งบริษัทฯ ได้ชี้แจงในประเด็นดังกล่าวว่าได้นำรถบรรทุกลากจูงที่ไม่ได้ขออนุญาตฯ มาใช้แทนเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร และไม่ให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน ทั้งนี้เพื่อให้การขนส่งดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ได้แจ้งให้กรมทางหลวงทราบ ซึ่งในระหว่างการขนส่งเมื่อขบวนขนส่งผ่านสถานีตรวจสอบน้ำหนักเกาะคา (ขาออก) จ.ลำปาง และทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้ดำเนินการสุ่มตรวจตามหลักเกณฑ์ พบว่าในขบวนขนส่งมีรถบรรทุกลากจูงจำนวน 2 คันที่ไม่ได้ขออนุญาตตามหลักเกณฑ์ และมีน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด จึงได้ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ในเบื้องต้นกรมทางหลวงได้แจ้งให้บริษัทฯ ระงับการขนส่งชั่วคราว ซึ่งกรมทางหลวงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ทาง และผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแม่เมาะให้แก่ประชาชนทั่วไป จึงแจ้งให้บริษัท ศิลามาศ ทรานสปอร์ต จำกัด ดำเนินการขออนุญาตรถบรรทุกที่จะนำมาลากจูงเพิ่มเติม และตรวจสอบให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การขออนุญาตฯ เพื่อให้สามารถดำเนินการขนส่งได้อย่างถูกต้อง และขนส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าได้ทันตามกำหนดต่อไป