“กรมทางหลวง” ปรับรูปแบบการจราจรทางแยกวังสีสูบ จ.อุตรดิตถ์ ให้เป็นแบบวงเวียน เพื่อก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด แยกวังสีสูบ เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2560 เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปี หรือจนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ อำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า ตามที่กรมทางหลวงโดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 1 (พิจิตร) ได้ทำการก่อสร้างดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์บริเวณแยกวังสีสูบ บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กิโลเมตรที่ 327 กับทางหลวงหมายเลข 1045 แยกวังสีสูบ ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ความยาว 1,650 เมตร โดยก่อสร้างเป็นทางลอดขนาด 4 ช่องการจราจรทั้งไปและกลับ ส่วนทางจุดตัดก่อสร้างเป็นวงเวียนขนาด 3 ช่องจราจร ความยาว 1,000 เมตร พร้อมระบบระบายน้ำ ป้ายจราจร และติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองเพื่อส่องสว่างทางลอด โดยเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางสายหลักในการเดินทางสู่ภาคเหนือและจากภาคเหนือไปสู่ทุกภาคของประเทศไทย
ดังนั้น เพื่อเป็นการจัดการจราจรทางร่วมทางแยก รอบบริเวณสถานที่ก่อสร้างอุโมงค์และทางลอด บริเวณแยกวังสีสูบ ต.งิ้วงาม อ.เมืองอุตรดิตถ์ หรือทางหลวงหมายเลข 11 อุตรดิตถ์-เด่นชัย ซึ่งจุดดังกล่าววันธรรมดาจะมีรถยนต์วิ่งผ่านมากว่า 20,000 คัน ช่วงเทศกาลสำคัญเช่น ช่วงปีใหม่ หรือเทศกาลสงกรานต์ จะมีปริมาณรถยนต์มาก มีปริมาณรถติดสะสมยาวหลายกิโลเมตร
โดยมาตรการที่ดำเนินการในการจัดการจราจรบริเวณดังกล่าว ได้แก่ การปิดการใช้สัญญาณไฟจราจรเพื่อจัดการเดินรถลักษณะวงเวียนเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2560 เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปี หรือจนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ โดยระหว่างการจัดการจราจรบริเวณดังกล่าว กรมทางหลวงได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ดูแลในการจัดการจราจร รวมทั้งจัดทำป้ายเตือนบังคับ ตลอดจนไฟฟ้าแสงสว่าง เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง
ทั้งนี้ ในระหว่างดำเนินการอาจทำให้การจราจรติดขัด ไม่สะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนและประชาชนทั่วไป กรมทางหลวง ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ และขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางล่วงหน้า ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ รวมถึงใช้เส้นทางอย่างระมัดระวังมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณงานก่อสร้างเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะทำให้การจราจรดังกล่าวเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ส่งเสริมการท่องเที่ยวลดต้นทุนด้วยการขนส่ง รวมถึงการเชื่อมต่อโครงการข่ายคมนาคมของภาคเหนือ อีกทั้งยังสามารถลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุที่สร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว
โดยผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวและประชาชนทั่วไป สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุต่างๆ ระหว่างดำเนินการได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทร.ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)
