“พาณิชย์” เปิดประตูการค้าสู่รัฐฉานให้ผู้ประกอบการไทย เชิญ 2 รัฐมนตรีเศรษฐกิจมาให้ข้อมูลโอกาสในการทำการค้าและการลงทุนถึงที่ เผยไทยมีโอกาสในการขายสินค้าเจาะเข้าทางท่าขี้เหล็กทะลุไปจนถึงเชียงตุงและตองยี เหตุสินค้าไทยมีคุณภาพดี คนพม่านิยมเหนือสินค้าจีน และยังมีโอกาสในการเข้าไปลงทุนภาคธุรกิจบริการและการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโต
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เชิญรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจากรัฐฉาน ประเทศพม่า 2 ท่าน คือ รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีคลัง เพื่อมาให้ความรู้เกี่ยวกับโอกาสทางการค้าและการลงทุนในรัฐฉานแก่ผู้ประกอบการไทย ซึ่งในเบื้องต้นกำหนดไว้วันที่ 4 เม.ย. 2560 โดยรูปแบบจะเป็นการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการใหญ่ให้กับภาคเอกชนและผู้ประกอบการของไทยที่สนใจจะเข้าไปทำการค้าและการลงทุนในรัฐฉานได้รับทราบข้อมูลในด้านต่างๆ ของรัฐฉาน และสิทธิประโยชน์ที่รัฐฉานจะให้แก่ผู้ประกอบการไทย
“กรมฯ ได้เชิญ 2 รัฐมนตรีของรัฐฉานเพื่อมาให้ความรู้เกี่ยวกับโอกาสในการเข้าไปทำการค้าและการลงทุนในรัฐฉาน ซึ่งรัฐมนตรีทั้ง 2 ท่านจะมาบอกถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่รัฐฉานจะให้กับผู้ประกอบการไทยว่ามีอะไรบ้าง หากอยากเข้าไปทำการค้าและการลงทุนในรัฐฉาน ซึ่งถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขยายมูลค่าการค้าชายแดนของไทยกับเพื่อนบ้านให้เพิ่มขึ้น”
นายอดุลย์กล่าวว่า สำหรับโอกาสในการขยายการค้าชายแดนเข้าสู่รัฐฉาน พบว่า สินค้าอุปโภคบริโภคมีโอกาสมากที่สุด เพราะรัฐฉานมีอาณาเขตติดต่อกับไทย ได้รับอิทธิพลจากสื่อโทรทัศน์และสื่อโฆษณาต่างๆ และที่ผ่านมามีการนำเข้าสินค้าไทยด้านอำเภอแม่สายและกระจายไปทั้งรัฐฉาน ทำให้ประชาชนในรัฐฉานทั้งตองยี เชียงตุง และเมืองท่าขี้เหล็กต่างนิยมสินค้าไทย และมีราคาสูงกว่าสินค้าจากคู่แข่ง เช่น จีน ซึ่งกรมฯ กำลังผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสร้างเครือข่าย และสร้างพันธมิตรทางการค้ากับผู้ประกอบการในรัฐฉาน เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและต่อสู้กับสินค้าจากจีนที่คาดว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต
โดยเส้นทางที่ผู้ประกอบการไทยจะใช้ในการขนส่งสินค้าเข้าสู่รัฐฉานมี 2 เส้นทาง คือ ใช้เส้นทางผ่านอำเภอแม่สาย-เมืองท่าขี้เหล็ก-เมืองเชียงตุง มุ่งสู่ทิศเหนือผ่านเมืองมูเซ เข้าประเทศจีนตอนใต้ และเส้นทางอำเภอแม่สาย-เมืองท่าขี้เหล็ก-เมืองเชียงตุง มุ่งสู่ทิศตะวันตก ผ่านเมืองตองยี เข้าตอนกลางของพม่า
ส่วนโอกาสในด้านการลงทุน พบว่าปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการในรัฐฉานเริ่มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จากการที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และคนในรัฐฉานมีรายได้มากขึ้น จึงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตมากขึ้น ทั้งการพักผ่อนหย่อนใจ การบันเทิง ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถที่จะเข้าไปหาลู่ทางในการลงทุนในด้านการพัฒนาการท่องเที่ยว การรักษาพยาบาล การเสริมสวย สปา การบันเทิง และร้านอาหาร เป็นต้น
สำหรับรัฐฉาน ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของพม่า มีพื้นที่ 6 หมื่นตารางกิโลเมตร มีทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น แร่ธาตุ ไม้ชนิดต่างๆ มีเมืองเศรษฐกิจสำคัญ 3 เมือง ได้แก่ ตองยี เชียงตุง และท่าขี้เหล็ก