“พาณิชย์” เผยส่งหนังสือมอบอำนาจยึดอายัดทรัพย์ให้กรมบังคับคดี พร้อมข้อมูลสืบทรัพย์ล็อตแรกให้กรมบังคับคดี เพื่อตามยึดอายัดทรัพย์นักการเมืองและข้าราชการทั้ง 6 ราย ที่ทำการทุจริตขายข้าวจีทูจีจนรัฐเสียหาย 2 หมื่นล้านบาทแล้ว พร้อมเดินหน้าขยายผลสืบทรัพย์ทั่วประเทศ โดยตั้งคณะทำงานที่เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือ
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศได้ส่งหนังสือมอบอำนาจยึดอายัดทรัพย์ เพื่อเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกรณีการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มีมูลค่าความเสียหาย 2 หมื่นล้านบาท กับนักการเมืองและข้าราชการรวม 6 คน และได้มีการส่งข้อมูลการสืบทรัพย์ล็อตแรกให้กรมบังคับคดี เพื่อไปดำเนินการยึดทรัพย์ตามหนังสือมอบอำนาจยึดทรัพย์ที่จัดส่งให้แล้วด้วย
“ขั้นตอนของการส่งหนังสือมอบอำนาจเป็นไปตามกระบวนการ คือ นายกรัฐมนตรีมอบอำนาจให้ รมว.พาณิชย์ และ รมว.พาณิชย์มอบอำนาจให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เซ็นลงนามหนังสือมอบอำนาจเช่นเดียวกับการลงนามในหนังสือบังคับทางปกครอง ซึ่งได้มีการทำตามขั้นตอนแล้ว และจากนั้นได้มอบอำนาจให้กรมการค้าต่างประเทศเพื่อดำเนินการส่งหนังสือมอบอำนาจยึดทรัพย์ให้กรมบังคับคดีดำเนินการต่อไป” น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากที่ส่งหนังสือมอบอำนาจยึดอายัดทรัพย์และข้อมูลสืบทรัพย์ในล็อตแรกให้กรมบังคับคดีแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะมีการสืบทรัพย์เพิ่มเติม โดยขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างจังหวัดทั้งหมดว่าทั้ง 6 รายมีทรัพย์อยู่ตรงไหน เพื่อส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กรมบังคับคดี โดยจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งจะประกอบด้วยหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสืบทรัพย์มาช่วยกระทรวงพาณิชย์ในการสืบทรัพย์
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ข้อมูลการสืบทรัพย์ล็อตแรกที่กรมการค้าต่างประเทศส่งไปให้กรมบังคับคดี ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับบัญชีเงินเดือนของผู้ที่ถูกเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายทั้ง 6 ราย และจะมีการสืบทรัพย์เพิ่มเติม เช่น ที่ดิน หรือมีบัญชีธนาคารอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เป็นต้น
สำหรับทั้ง 6 รายที่ถูกกระทรวงพาณิชย์ทำหนังสือมอบอำนาจยึดทรัพย์ตามคำสั่งบังคับทางปกครองกรณีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการขายข้าวจีทูจี มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ และ พ.ต.ท.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนีคดี
โดยคดีดังกล่าวเป็นไปตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง มาตรา 57 ซึ่งอนุญาตให้นำวิธีพิจารณาความแพ่ง (วิ.แพ่ง มาตรา 271) มาใช้โดยอนุโลม โดยจะเริ่มจากโจทก์ คือ กรมการค้าต่างประเทศยื่นตั้งเรื่องยึดอายัดทรัพย์ พร้อมวางค่าใช้จ่าย และส่งเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์ที่จะยึด ซึ่งขั้นตอนนี้ทางฝ่ายโจทก์ต้องเป็นผู้ไปดำเนินการสืบทรัพย์ หาข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 6 รายมีทรัพย์สินรายการใดบ้าง และต้องมีการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โฉนดที่ดินต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานที่ดิน หรือบัญชีธนาคารระบุชื่อผู้ที่ต้องการยึดทรัพย์ เป็นต้น มาประกอบการพิจารณา