“พาณิชย์” ทำโครงการ “โรงสี 4.0” พัฒนาโรงสีให้เป็นผู้ค้าข้าวและผู้ส่งออกข้าวรายใหม่

“พาณิชย์” จัดทำโครงการโรงสี 4.0 เปิดหลักสูตรพัฒนาโรงสีให้เป็นผู้ค้าข้าวและผู้ส่งออกข้าวรายใหม่ แก้ปัญหาโรงสีว่างงานช่วงไม่มีผลผลิต และช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกข้าวไทย

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มีโครงการผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการค้าข้าวรายใหม่เข้าสู่ระบบ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้โรงสีมีการพัฒนาตนเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและขยายไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวกับข้าวในช่วงที่ไม่มีข้าวมาให้สี เช่น ขายข้าวเองหรือส่งออก แทนที่จะทำธุรกิจในรูปแบบเดิมๆ เพราะจะมีงานทำแค่ในช่วงที่ผลผลิตข้าวออกสู่ตลาด แต่เมื่อพ้นฤดูเก็บเกี่ยวก็จะเกิดปัญหาการว่างงานและไม่มีข้าวมาสี

“ปัญหาที่โรงสีไม่พัฒนาเป็นผู้ค้าข้าวหรือส่งออกเพราะติดขัดปัญหาหลายประการ เช่น ไม่มีพื้นความรู้ในการสร้างตราสินค้า บรรจุภัณฑ์ และการค้าข้าว จึงทำให้โรงสีเห็นว่าการขายข้าวด้วยตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกเป็นเรื่องยาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางติดต่อ และยังมีขั้นตอนการจัดทำเอกสารที่มีรายละเอียดมาก จึงสมัครใจที่จะขายข้าวผ่านนายหน้าค้าข้าวหรือผู้ส่งออกในประเทศเพื่อนำไปส่งออกต่ออีกทอดหนึ่ง ทำให้เสียโอกาสในการทำตลาดต่างประเทศ และส่งผลให้ไทยค่อนข้างขาดแคลนผู้ส่งออกรายใหม่ๆ ในตลาดต่างประเทศ”

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กระทรวงฯ ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน จัดทำโครงการอบรมหลักสูตร “โรงสี 4.0” มองนอกกรอบสู่การค้าข้าวยุคใหม่ขึ้น ในช่วงปลายเดือน ก.พ.-พ.ค. 2560 รวม 4 รุ่น ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดขอนแก่น) ภาคเหนือ (จังหวัดพิษณุโลก) ภาคกลาง (จังหวัดสุพรรณบุรี) และภาคใต้ (จังหวัดนครศรีธรรมราช) โดยเนื้อหาการอบรมจะประกอบด้วยหัวข้อที่สำคัญ เช่น การสร้างตราสินค้า บรรจุภัณฑ์ และการค้าข้าวผ่านระบบ Online เป็นต้น

ขณะเดียวกัน จะช่วยพัฒนาโรงสีให้ทราบถึงขั้นตอนและวิธีการส่งออก เช่น การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกและนำเข้า เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับขั้นตอนและพิธีการศุลกากรขาออก รายละเอียดเอกสารการจองเรือ และเมื่อจองเรือเสร็จเรียบร้อยแล้วต้องดำเนินการอย่างไรต่อ ตลอดจนการจัดเตรียมเอกสารในการติดต่อกับธนาคารเพื่อขอขึ้นเงิน กรณีที่มีการซื้อขายด้วยเงื่อนไข L/C เป็นต้น ซึ่งจะมีการอบรมทั้งทางทฤษฎีและภาคปฏิบัติ

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า การจัดโครงการ “โรงสี 4.0” ในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวรายใหม่ที่ต้องการขยายตลาดการค้าข้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศมีองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน รวมถึงยังเป็นการสร้างแนวความคิดใหม่ที่ว่า “การค้าข้าวไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด” และเมื่อมีผู้ประกอบการที่เข้ารับการอบรมได้มีการนำองค์ความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้แล้ว ก็จะส่งผลให้ปริมาณการค้าข้าวทั้งภายในและภายนอกประเทศมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น