ทาทาสตีลตั้งเป้าปริมาณการขายเหล็กงวดปี 60/61 โตขึ้น 8-10% จาก 1.25 ล้านตัน หลังรัฐสกัดขึ้นภาษีทุ่มตลาดเหล็กนำเข้าจากจีน
นายราจีฟ มังกัล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทาสตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังทำแผนธุรกิจปี 2560/2561 (เม.ย. 60-มี.ค. 61) คาดว่าปริมาณการขายเหล็กจะโตขึ้น 8-10% จากงวดปีก่อนที่มีปริมาณการขาย 1.25 ล้านตัน เนื่องจากความต้องการใช้เหล็กในประเทศยังขยายตัวจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ ขณะที่มาตรการปกป้องการทุ่มตลาดเหล็กของกระทรวงพาณิชย์ทำให้เหล็กนำเข้าจากจีนน้อยลง
ขณะที่ราคาขายเหล็กทรงยาวในช่วง 3 เดือนข้างหน้านี้น่าจะคงที่เมื่อเทียบจากช่วง 1 เดือนที่แล้ว โดยราคาเหล็กเส้นอยู่ที่ 17.50-18 บาท/กิโลกรัม (กก.) เหล็กลวดคาร์บอนสูง 19 บาท/กก. และเหล็กลวดคาร์บอนต่ำ 17.2-17.3 บาท/กก. ซึ่งยังเป็นระดับราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นที่ 18 บาทกว่า/กก. แม้ว่ารัฐจะมีการจัดเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดจากเหล็กลวดคาร์บอนต่ำจากจีนแล้วก็ตาม เป็นผลมาจากเหล็กลวดจากจีนมีการผสมสารบางตัวเพื่อเลี่ยงเสียภาษีนำเข้าอยู่ ทางบริษัทก็คงจะต้องหารือกับหน่วยงานรัฐต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศทั้งด้านภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดและการออกหลักเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ฉบับใหม่ ทำให้ปริมาณการผลิตและจำหน่ายเหล็กของผู้ประกอบการในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทมียอดขายเหล็กเพิ่มขึ้นเป็น 1.25 ล้านตัน/ปี จากกำลังผลิตรวม 1.7 ล้านตัน/ปี
นายราจีฟกล่าวต่อไปว่า สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2560 (ต.ค.-ธ.ค.) บริษัทมียอดขาย 4,637 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20% และมีกำไรสุทธิ 229 ล้านบาท ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 35 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 (ม.ค.-มี.ค.) ยังดีต่อเนื่องเพราะเป็นช่วงฤดูขาย ทำให้ทั้งปีมีกำไรแน่นอน ส่วนจะมีการจ่ายเงินปันผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริษัทหลังจากไม่ได้จ่ายปันผลมานาน