เอ็กโก กรุ๊ปตามข้อมูลการหารือ กกพ.กับ ส.ป.ก. เกี่ยวกับคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ยกเลิกสัญญาเช่าที่ดิน ส.ป.ก.เทพสถิต วินด์ฟาร์ม หวั่นลามไปยังโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมอื่น ยันฟ้องศาลแน่หากโดนยกเลิกเช่าที่ดิน ส.ป.ก.
นายชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ ส.ป.ก.สำหรับใช้ติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าของบริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ที่อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากไม่สร้างประโยชน์โดยตรงว่า คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดนี้ผูกพันกับคู่กรณีคือเทพสถิต วินด์ฟาร์มเท่านั้น ส่วนที่จะมีผลกระทบโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมอื่นๆ หรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่บริษัทก็เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด รวมทั้งผลการหารือระหว่างคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
ทั้งนี้ เอ็กโก กรุ๊ป มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 2 โครงการที่เช่าพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ชัยภูมิเช่นกัน ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าเทพพนา วินด์ฟาร์ม กำลังผลิต 6.9 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม ขนาดกำลังผลิต 80 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งสองโครงการนี้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว
โครงการโรงไฟฟ้าพลังลมของเอ็กโก กรุ๊ปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ได้รับใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และไม่เคยมีข้อพิพาทกับชุมชนในพื้นที่ โดยมีการจ่ายเงินค่าเช่าที่ดิน ส.ป.ก.ต่อสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ไร่ละ 3.5 หมื่นบาท/ไร่ และได้จ่ายค่าเช่าที่ดิน ส.ป.ก.ให้กับเจ้าของที่เดิมที่บริษัทได้ติดต่อขอเช่า ซึ่งตามขั้นตอนเกษตรกรที่ได้สิทธิที่ ส.ป.ก.จะต้องคืนที่ดินที่ได้รับสิทธิให้กับ ส.ป.ก.ก่อน โดยบริษัทจะจ่ายค่าเช่าที่ให้เกษตรกรเดิมนั้นถือเป็นการสร้างรายได้ให้เกษตรกร
หากคำพิพากษาศาลปกครองมีผลต่อเนื่องไปยังโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมที่ผลิตเชิงพาณิชย์แล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งได้รับสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) แล้วกว่า 1 พันเมกะวัตต์นั้นเป็นการไม่ยุติธรรม และจะสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ เชื่อว่าผู้ประกอบการจะดำเนินการฟ้องร้องต่อไป