xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด ขสมก.สั่งชะลอรับรถ NGV เจ้าปัญหา รอเคลียร์แหล่งกำเนิดก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ ขสมก.
บอร์ด ขสมก.สั่งชะลอตรวจรับรถเมล์ NGV ให้รอความชัดเจน แหล่งกำเนิดก่อน หลังพิจารณาหนังสืออัยการ และข้อสังเกต องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน “ผอ.ขสมก.” ยอมรับยกเลิกสัญญาเป็นทางออกแต่ขอเวลาพิจารณาก่อน ขณะที่ยันเดินหน้าปรับ “เบสท์ริน” ตามสัญญาวันละกว่า 7 ล้านบาทซึ่งมีแบงก์การันตี



นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ได้รายงานความคืบหน้าโครงการจัดซื้อรถโดยสารรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ขสมก.ที่มี พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ เป็นประธาน วันที่ 31 ม.ค. ซึ่งบอร์ดได้รับทราบถึงปัญหาการรับมอบรถเมล์ NGV ซึ่งมีหนังสือจาก 3 ฉบับ ได้แก่ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย), อัยการสูงสุด และกรมศุลกากร ประกอบการรายงาน โดยบอร์ดมีความเห็น ว่า ขสมก.และคณะกรรมการตรวจรับรถเมล์ NGV 489 คัน ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญา และ TOR โดยยึดหลักระเบียบสัญญาและกฎหมาย รวมถึงข้อตกลงคุณธรรมอย่างเคร่งครัด และในระหว่างที่ยังรอคำตอบความชัดเจนเรื่องแหล่งกำเนิดรถ NGV จากกรมศุลกากร ให้ชะลอการรับมอบรถไปก่อนจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน พร้อมกันนี้ให้ ขสมก.พิจารณากรณีที่หากไม่ได้รับรถตามสัญญาอาจจะต้องมีการบอกเลิกสัญญาต่อไป

ทั้งนี้ การจัดซื้อรถเมล์ NGV นั้น ได้มีการร่างเงื่อนไข TOR ตั้งแต่ปี 2558 ต่อเนื่องปี 2559 และมีลงนามข้อตกลงคุณธรรม ซึ่งทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันได้เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ตั้งแต่ทำ TOR จนถึงลงนามสัญญากับผู้ชนะประมูล และล่าสุดเมื่อเกิดประเด็นการนำเข้ารถเมล์ NGV ผู้แทนองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันได้หารือกับ ขสมก.เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 59 จากนั้นได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึง ขสมก. ระบุว่า 1. คณะกรรมการองค์การต่อต้านคอร์รัปชันไม่พบความผิดปกติใด และข้อกังวลใดๆ ในการจัดซื้อรถเมล์ครั้งนี้ ตั้งแต่ร่าง TOR จนถึงวันลงนามสัญญา แต่ให้ข้อสังเกตกรณีที่มีการพบปัญหาเมื่อมีการนำเข้าไม่ได้ซึ่งเป็นห่วงว่าผู้ขายไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาคุณธรรม ในข้อ 2.1.1 และข้อ 2.1.2 และเป็นห่วงจะไม่สามารถรับรถได้ และหากรับรถได้จะไม่สามารถดำเนินการให้บริการได้ตามสัญญาต่อไปจน 10 ปี

ส่วนข้อหารือกับอัยการสูงสุดกรณีรับมอบรถนั้น อัยการได้มีหนังสือตอบมายัง ขสมก.แล้ว ซึ่งได้รับเมื่อวันที่ 30 ม.ค. โดยมีข้อสังเกตให้ ขสมก.รอความชัดเจนเรื่องแหล่งกำเนิดรถ ส่วนทางกรมศุลกากรได้ตอบว่าอยู่ระหว่างสอบถามไปยังกรมศุลกากรมาเลเซีย ขณะนี้ยังไม่มีความขัดเจน

“คำตอบจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันว่า ขสมก.ได้ดำเนินการตั้งแต่ร่าง TOR จนถึงลงนามสัญญาไม่มีข้อผิดปกติ แสดงให้เห็นว่าผู้บริหาร ขสมก.ดำเนินการโครงการด้วยโปร่งใส หลังจากนี้ขอเวลาพิจารณาก่อน เพราะไม่ทราบว่าจะได้รับคำตอบจากกรมศุลกากรเมื่อใด จะเร็วหรือช้า คงต้องทำหนังสือสอบถามไปยังกรมศุลกากรอีกครั้ง เพราะ ขสมก.คงไม่สามารถไปตรวจสอบเองได้ ดังนั้น ระหว่างนี้ ขสมก.จะทำตามสัญญา คือ ได้เริ่มปรับบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป แล้วตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 59 โดยมีแบงก์การันตี 323 ล้านบาท ปรับวันละกว่า 7 ล้านบาทต่อคัน ประเมินถึงวันที่ 31 ม.ค. ปรับเป็นเงินกว่า 230 ล้านบาทแล้วซึ่งต้องประเมินวงเงินแบงก์การันตีที่เหลือกับการพิจารณายกเลิกสัญญาด้วย”

อย่างไรก็ตาม นอกจากพิจารณาเรื่องระยะเวลาที่เหมาะสมว่าจะรอได้ถึงเมื่อใด ซึ่งเงื่อนไขเวลาจะเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจว่าควรจะยกเลิกสัญญาเมื่อใดด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีการตัดสินใจยกเลิกสัญญาในเดือน ก.พ.จะต้องเริ่มกระบวนการจัดซื้อใหม่ ร่าง TOR ประมาณ 3 เดือน ประมูลอีก 3 เดือน คาดว่าจะได้รับรถในเดือน พ.ย. 2560

โดยขณะนี้ทางเอกชนได้นำรถออกจากท่าเรือแหลมฉบังแล้ว 390 คัน และทยอยนำไปตรวจสภาพและจดทะเบียนที่กรมขนส่งฯ กว่า 100 คันแล้ว ส่วนล็อตแรก 99 คัน ยังอยู่ท่าเรือ พร้อมกันนี้การที่ให้จดทะเบียนรถเป็นชื่อ ขสมก.แม้ยังไม่มีการตรวจรับรถนั้น ยืนยันว่าเป็นการดำเนินการตาม TOR
กำลังโหลดความคิดเห็น