xs
xsm
sm
md
lg

จับตา ขสมก.รับรถ NGV ฉีกเงื่อนไข สร้างบรรทัดฐานใหม่ TOR ไม่ใช่สาระสำคัญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


จับตา ขสมก.ตัดสินใจรับรถเมล์ NGV ฉีกเงื่อนไข TOR และสัญญา ชี้แหล่งกำเนิดของไม่ใช่สาระสำคัญ เป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้การประมูลจัดซื้อจัดจ้าง เปิดปมทำหนังสือหารืออัยการสูงสุดช่วยเคลียร์ปัญหากฎหมาย พร้อมจัดหาพื้นที่จอดรถล้วนเอื้อเอกชนทั้งที่ทำผิดสัญญาแล้ว แถมสุดท้ายยังช่วยเอกชนได้รับยกเว้นภาษีและค่าปรับอีก
 
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า กรณีรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) มีแหล่งกำเนิดไม่ตรงกับที่บริษัทเบสท์ริน กรุ๊ปเสนอแผนจัดหาและทำสัญญากับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทาง ขสมก.ได้ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อหารือว่าจะสามารถรับมอบรถได้หรือไม่ ซึ่งกรณีที่มีการปฏิบัติไม่ตรงตามสัญญานั้น ต้องพิจารณาว่าเงื่อนไขดังกล่าวเป็นสาระสำคัญหรือไม่ ขสมก.ได้รับความเสียหายหรือไม่ และสินค้าดังกล่าวมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับที่กำหนดไว้ในสัญญาหรือไม่ ซึ่งการกำหนดเงื่อนไขไว้ในสัญญาให้เอกชนทำแผนการผลิตและส่งมอบรถ และได้ลงนามสัญญาตามเงื่อนไขดังกล่าวนั้นต้องถือว่าเป็นกติกาและเป็นสาระสำคัญแล้ว ดังนั้น หากเรื่องนี้สรุปว่า ขสมก.สามารถรับมอบรถ NGV จากเบสท์รินกรุ๊ปฯ ได้ เพราะแหล่งกำเนิดรถไม่ถือเป็นเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญ จะทำให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ในการกำหนดTOR ประมูลและทำสัญญาของหน่วยงานอื่นหรือไม่  
 
โดยเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 59 ขสมก.ได้ทำหนังสือหารืออัยการสูงสุด 2 ประเด็น คือ 1. กรณีเบสท์รินฯ วางเงินประกันเพื่อให้กรมศุลกากรปล่อยรถโดยสารที่อายัดไว้ (100 คันแรก) และนำรถโดยสารดังกล่าวส่งมอบให้ ขสมก. โดยที่เรื่องอยู่ระหว่างกรมศุลกากรตรวจสอบเอกสารหลักฐานแหล่งผลิต ขสมก.จะสามารถตรวจสอบรถโดยสารจากบริษัท และนำมาวิ่งให้บริการประชาชนได้หรือไม่

2. กรณีที่ขอบเขตของงาน (TOR) โครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมบำรุงรักษารถโดยสารจำนวน 489 คัน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เอกสารหมายเลข 1 ได้กำหนดคุณลักษณะรถยนต์โดยสารว่าเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูปทั้งคันจากต่างประเทศ หรือรถที่ประกอบในประเทศไทย อุปกรณ์และชิ้นส่วนที่ใช้ประกอบรถเป็นไปตามมาตรฐานของผู้ผลิต และกรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบ แต่ในเงื่อนไขสัญญาข้อ 2 ระบุว่าบริษัทตกลงขายรถยนต์โดยสารปรับอากาศชั้นเดียวใช้ NGV ขนาด 12 เมตร ยี่ห้อ SUNLONG รุ่น SLK 6129 CNG ผลิตที่ประเทศจีน ประกอบ ณ โรงงาน R&A COMMERCIAL VEHCLES SDN BHD ประเทศมาเลเซีย จะถือว่าข้อความที่มีความขัดแย้งกันเป็นสาระสำคัญของสัญญาหรือไม่ และ ขสมก.จะสามารถตรวจรับรถโดยสารดังกล่าวได้หรือไม่

เนื่องจากกรณีดังกล่าวรัฐบาลได้มีนโยบายให้รีบดำเนินการเพื่อให้สามารถนำรถโดยสารวิ่งให้บริการประชาชนในวันขึ้นปีใหม่ 2560

แหล่งข่าวกล่าวว่า กรณีที่เบสท์รินฯ นำรถล็อตที่ 2 จำนวน 291 คัน ออกจากท่าเรือโดยไม่มีความผิดฐานสำแดงถิ่นกำเนิดสินค้าเป็นเท็จ และไม่ต้องชำระค่าปรับเหมือนกับรถล็อตแรก 100 คัน โดยวางประกันค่าภาษีนำเข้าแบบมีเงื่อนไข คือ สงวนสิทธิ์ว่าหากพิสูจน์ว่ารถนำเข้าตามเงื่อนไขสัญญาสามารถใช้สิทธิ์เรียกร้องขอคืนภาษีในภายหลังได้ตามมาตรา 10 วรรค 5 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ความหมายคือ หากมีหลักฐานสามารถพิสูจน์ถิ่นกำเนิดสินค้าได้ว่าเป็นรถเมล์ NGV ประกอบในมาเลเซียจริง กรมศุลกากรต้องคืนภาษีนำเข้าให้กับบริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ผู้นำเข้านั่นเอง

ในขณะที่ ขสมก.ได้หารืออัยการสูงสุด พร้อมไปกับได้มีการเตรียมพื้นที่สำหรับให้เอกชนจอดรถ NGV ที่ทยอยนำออกจากท่าเรือเพื่อเข้าสู่กระบวนการติดตั้งระบบ GPS และนำไปตรวจสภาพรถที่ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่การรับมอบของคณะกรรมการตรวจรับรถ ซึ่งในที่สุดหากให้ ขสมก.รับมอบรถ NGV ดังกล่าวได้ เท่ากับสรุปว่าแหล่งผลิตไม่ถือเป็นสาระสำคัญของเงื่อนไขใน TOR และสัญญา เท่ากับเบสท์รินฯ ไม่มีความผิด จะทำให้ส่งมอบรถล็อตที่ 2 จำนวน 291 คัน และล็อตที่ 3 อีก 98 คัน และจะย้อนไปที่ รถ 99+1 คัน ที่เป็นล็อตแรก จะสามารถส่งมอบได้ตามไปด้วย

และการนำรถออกมาวิ่งให้บริการประชาชน เท่ากับภาครัฐนำรถมาใช้ประโยชน์แล้ว เมื่อมีการรับรองว่ารถที่เบสท์รินฯ จัดหาไม่ผิดสัญญา ประเด็นที่ตามมาคือ เบสท์รินฯ จะได้สิทธิ์ยกเว้นไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้า 40% และจะสามารถย้อนกลับไปขอคืนเงินประกันที่วางไว้กับกรมศุลกากรตอนที่นำรถ 291 คันออกจากท่าเรือได้อีก และยังไม่ต้องเสียค่าปรับที่ส่งมอบรถล่าช้ากับ ขสมก. อีกวันละ 8.3 ล้านบาท อีกด้วย โดยอ้างเหตุต้องส่งมอบล่าช้ามาจากกระบวนการตรวจสอบของหน่วยงานรัฐ เท่ากับที่ผ่านมาการตรวจสอบข้อบกพร่องในการนำเข้าของกรมศุลกากรไม่มีความหมาย

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาตัดสินกรณีรถ NGV มีแหล่งกำเนิดไม่ตรงกับสัญญา หากมีการผ่อนปรนด้วยเหตุผลอยากให้ประชาชนมีรถเมล์ใหม่ใช้อย่างเดียว จะกลายเป็นบรรทัดฐานความถูกต้องของกฎหมาย เงื่อนไขใน TOR และรายละเอียดในสัญญาไม่มีความหมายอีกต่อไป
 
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ประเด็นที่หารือเพื่อให้อัยการพิจารณาคือ กรณีที่มาหรือแหล่งกำเนิดของรถ เมื่อข้อเท็จจริงพิสูจน์แล้วว่าไม่ตรงกับสัญญาจะถือว่าผิดสัญญาหรือไม่ คงต้องดูว่าประเด็นนี้เป็นสาระสำคัญหรือไม่ ซึ่งในส่วนของ ขสมก. ทำหน้าที่ประมูล และได้ผู้ชนะเป็นบริษัท เบสท์รินฯ ส่วนทางเบสท์รินฯ มีหน้าที่ส่งมอบรถตามสัญญา ซึ่งในการรับมอบรถ ขสมก.จะต้องตรวจสอบความถูกต้องตามสัญญาและข้อกฎหมาย ยอมรับว่าวัตถุประสงค์ของโครงการคือต้องการให้ประชาชนได้ใช้บริการรถเมล์ใหม่ ซึ่ง ขสมก.ยังวางแผนจะให้บริการในเดือน ก.พ. 60
กำลังโหลดความคิดเห็น