“พาณิชย์” นัดถกผู้ผลิตสินค้าคอนซูเมอร์รายใหญ่สัปดาห์หน้า ผลิตสินค้าจำเป็นต่อการบริโภคป้อนร้านธงฟ้าประชารัฐ ตั้งเป้ากระจายผ่านร้านโชวห่วยกว่า 2 หมื่นร้านทั่วประเทศเพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ยันใช้แบรนด์เดิมของผู้ผลิตแต่ลดต้นทุนด้านการตลาดลงมาเพื่อให้ขายได้ถูก พร้อมจัดส่งคาราวานธงฟ้าเคลื่อนที่นำสินค้าจำเป็นช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ เริ่ม ก.พ.นี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้ประกอบการค้าส่งค้าปลีกต้นแบบที่ได้รับการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อร่วมมือกันในการผลักดันนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีร้านธงฟ้าประชารัฐในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งร้านค้าส่งที่มีอยู่ 114 ร้านค้า 545 สาขาใน 65 จังหวัด พร้อมที่จะร่วมมือในการกระจายสินค้าไปยังร้านค้าปลีกที่มีอยู่กว่า 2 หมื่นร้านค้า ซึ่งจะปรับเปลี่ยนให้เป็นร้านธงฟ้าประชารัฐ เพื่อให้เป็นแขนขาในการกระจายสินค้าให้ทั่วถึงและช่วยลดภาระด้านค่าครองชีพให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย
ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะมีการหารือกับผู้ผลิตสินค้าคอนซูเมอร์รายใหญ่ในสัปดาห์หน้าทุกค่ายว่าสามารถที่จะผลิตสินค้ารายการใดบ้าง เพื่อส่งให้กับเครือข่ายร้านค้าส่งค้าปลีกที่กระทรวงฯ ดูแลอยู่ โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นแบรนด์เดียวกันกับที่ผู้ผลิตรายนั้นๆ ผลิตจำหน่าย แต่อาจจะลดต้นทุนด้านอื่นๆ ลงมาเพื่อให้จำหน่ายได้ถูกกว่าที่จำหน่ายในห้างทั่วไป และจะเน้นเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้จริงๆ เช่น สบู่ ยาสีฟัน แชมพู ผงซักฟอก เป็นต้น
“สินค้าที่จะนำไปขายในร้านธงฟ้าประชารัฐจะไม่ใช้แบรนด์ใหม่เพราะประสบความสำเร็จได้ยาก ในอดีตก็เคยเห็นมาแล้ว แต่จะใช้แบรนด์เดิมของผู้ผลิตแล้วลดต้นทุนด้านการตลาดอื่นๆ ลงมาเพื่อให้จำหน่ายได้ถูก และยังได้สินค้าที่มีคุณภาพดี คุณภาพตรงตามที่ผู้ผลิตรายนั้นๆ ทำขาย เพราะถ้าสินค้าไม่ดีก็กระทบต่อชื่อเสียงของผู้ผลิตเอง ขณะที่ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ในแง่การซื้อสินค้าที่ถูกลง และมีค่าครองชีพลดลง” นายสนธิรัตน์กล่าว
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า กระทรวงฯ จะจัดคาราวานธงฟ้าเพื่อนำสินค้าจำเป็นไปจำหน่ายให้แก่ประชาชนในจังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ไล่ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.นี้ เพื่อช่วยลดภาระด้านค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และยังมีแผนที่จะนำผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรในจังหวัดต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมนำไปช่วยจำหน่ายด้วย
ส่วนการจัดตั้งตลาด ทั้งตลาดทั่วไป ตลาดเฉพาะสินค้า และตลาดชุมชนประชารัฐ ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศทำการสำรวจแล้วว่าในแต่ละจังหวัดมีตลาดลักษณะใดบ้าง รวมทั้งตลาดต้องชมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว โดยให้สรุปรายชื่อมาภายใน 1-2 สัปดาห์ พร้อมทั้งแผนงานสนับสนุนว่าต้องดำเนินการอะไรบ้างเพื่อผลักดันให้ตลาดเกิดขึ้น ซึ่งกระทรวงฯ พร้อมที่จะของบประมาณจากรัฐบาลเข้ามาสนับสนุนในการดำเนินการต่อไป