“สนามบินภูเก็ต” เผยได้ติดตั้งเอกซเรย์สัมภาระเพิ่ม 1 เครื่องรวมเป็น 9 เครื่อง พร้อมทั้งจัดเคาน์เตอร์สำหรับการตรวจหนังสือเดินทางเพิ่มเติมที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อลดความคับคั่งภายในอาคารผู้โดยสาร โดยบอร์ด ทอท.อนุมัติ สนับสนุนงบให้ ตม.ในการจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง ที่มีจำนวนไม่เพียงพอต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสาร
นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ท่าอากาศยานภูเก็ตได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องเอกซเรย์สัมภาระรุ่น 9075 เพิ่มจำนวน 1 เครื่อง บริเวณประตู 2 ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารและลดความคับคั่งภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งได้ดำเนินการติดตั้งเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2560 โดยใช้ walk through ร่วมกับเครื่อง X-Ray ที่ใช้งานอยู่เดิม 8 เครื่อง ดังนั้น ขณะนี้มีเครื่องเอ็กซเรย์ทั้งหมด 9 เครื่อง ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ได้แก่
- บริเวณชั้น 1 ประตูหมายเลข 2 (ทิศใต้) จำนวน 1 เครื่อง และประตูหมายเลข 5 (ทิศเหนือ) จำนวน
1 เครื่อง โดยติดตั้งบริเวณด้านในขาเข้า อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
- บริเวณชั้น 2 ทิศใต้ จำนวน 1 เครื่อง โดยติดตั้งบริเวณด้านในหลังประตูทางเข้า อาคารผู้โดยสาร
ระหว่างประเทศ
- บริเวณชั้น 3 ประตูหมายเลข 1 (ทิศใต้) จำนวน 2 เครื่อง ประตูหมายเลข 2 จำนวน 2 เครื่อง เพื่ออำนวย
ความสะดวกแก่ผู้พิการ ประตูหมายเลข 3 (ทิศเหนือ) จำนวน 2 เครื่อง โดยติดตั้งบริเวณ ก่อนประตูทางเข้า ขาออกอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
นอกเหนือจากการดำเนินการติดตั้งเครื่องเอกซเรย์เพิ่มเติมแล้ว ในส่วนของขั้นตอนการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง ปัจจุบันท่าอากาศยานภูเก็ตได้จัดเคาน์เตอร์สำหรับการตรวจหนังสือเดินทาง ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ แบ่งเป็นผู้โดยสารขาออกมีจำนวน 17 เคาน์เตอร์ 34 ช่องตรวจ และผู้โดยสารขาเข้ามีจำนวน 19 เคาน์เตอร์ 38 ช่องตรวจ และได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ ตม.เพื่อขอความร่วมมือในการจัดกำลังพลเข้าปฏิบัติงานประจำ ณ เคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางตามจำนวนข้างต้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์เครื่องมือสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ตรวจหนังสือเดินทางของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ณ ท่าอากาศยานภูเก็ตมีจำนวนไม่เพียงพอต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสาร และ สตม.ไม่สามารถดำเนินการจัดหาได้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งคณะกรรมการ ทอท.ได้มีมติเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ให้สนับสนุนงบประมาณให้แก่ สตม.ในการจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการผู้โดยสาร และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทย นอกจากนั้น ท่าอากาศยานภูเก็ตยังได้จัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่รอการผ่านเข้ารับการตรวจลงตราหนังสือเดินทางทั้งในส่วนผู้โดยสารขาออกและผู้โดยสารขาเข้าในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารหนาแน่นอีกด้วย
สำหรับมาตรการการรักษาความปลอดภัยแบบ Terminal Screening ที่ท่าอากาศยานภูเก็ตดำเนินการอยู่ในขณะนี้เป็นมาตรการระยะสั้นที่จะดำเนินการถึงเดือนเมษายน 2560 ซึ่งในระยะต่อไปจะดำเนินการมาตรการการรักษาความปลอดภัยสัมภาระลงทะเบียน (Hold Baggage) แบบ Inline Screening ซึ่งสามารถใช้งานได้ในเดือนเมษายน 2560 โดยที่ผู้โดยสารจะสามารถผ่านเข้าไปในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และนำสัมภาระลงทะเบียนไปดำเนินการที่เคาน์เตอร์ตรวจรับบัตรโดยสารของสายการบินได้เลย โดยไม่ต้องรอคิวผ่านการตรวจค้นด้วยเครื่อง X-ray ที่ชานชาลาขาออกชั้น 3 เหมือนเช่นปัจจุบัน
“ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต (ปีงบประมาณ 2553-2557) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการไม่ได้รับความสะดวกอย่างเพียงพอ จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ และจะเร่งปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้บริการ ทภก.ได้รับความสะดวกสบายอย่างสูงสุด” นางมนฤดีกล่าว