xs
xsm
sm
md
lg

ล้มประมูลระบบ APM สุวรรณภูมิเฟส 2 เปิดใหม่ ผ่านคุณสมบัติรายเดียวหวั่นมีปัญหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ทอท.ล้มประมูลระบบ APM สุวรรณภูมิ วงเงิน 2.89 พันล้าน เหตุมีกลุ่ม ITD ผ่านคุณสมบัติรายเดียว หวั่นมีปัญหา เร่งเปิดขายซองใหม่แล้วตั้งแต่ 12 ม.ค. ส่วนงานขยายอาคารผู้โดยสารตะวันออกต้องรอเคลียร์การบินไทย หลังเปลี่ยนใจไม่ย้ายไปอาคาร 2 ยันภาพรวมงานเฟส 2 ยังไม่ล่าช้า พร้อมจับมือ ททท.เอ็มโอยูทำตลาดเชิงรุกเพิ่มนักท่องเที่ยว ยอมรับ Q1/60 เจอพิษทัวร์ศูนย์เหรียญฉุดผู้โดยสารต่ำเป้า

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากที่ ทอท.ได้เปิดประมูลงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ซึ่งเป็นระบบขนส่งผู้โดยสารแบบไม่มีคนขับ โดยเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบริเวณ Concourse กับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีผู้ซื้อเอกสารประมูลรวม 9 ราย มีผู้ยื่นซองประกวดราคาจำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD, บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเชีย จำกัด และบริษัท เรืองณรงค์ จำกัด แต่ปรากฏว่ามีผู้ผ่านคุณสมบัติเพียงรายเดียว คือ กลุ่มบริษัทของอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จึงพิจารณายกเลิกและเปิดประมูลใหม่ เนื่องจากเห็นว่าหากเปิดข้อเสนอแล้วราคาสูงกว่าราคากลางมากจะไม่มีทางเลือก โดยได้เปิดขายเอกสารประมูลแล้วตั้งแต่วันที่ 12-25 ม.ค. 2560 และกำหนดให้ยื่นเอกสารในวันที่ 3 มี.ค. 2560 ซึ่งไม่มีการปรับเงื่อนไขทีโออาร์แต่อย่างใด เพราะผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติก่อนหน้านี้เป็นประเด็นที่ไม่ใช่สาระสำคัญ เช่น ส่งเอกสารไม่ครบ เป็นต้น

ทั้งนี้ ราคากลางของงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบ APM วงเงิน 2,894,959,247.20 บาท คาดว่าจะสรุปประมูลได้ในเดือน ก.พ. 2560 มีระยะเวลาดำเนินงาน 29 เดือน ขณะที่ตามแผนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มี 7 งาน ได้ประมูลและเริ่มงานก่อสร้างไปแล้ว 3 งาน ได้แก่ งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น 1 และ ชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) (CC1/1) โดยมีบริษัท อิตาเลี่ยนไทย เป็นผู้รับจ้าง วงเงิน 12,050 ล้านบาท งานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค (CC3) มีกิจการค้าร่วม เอส จี แอนด์ อินเตอร์ลิ้งค์เป็นผู้รับจ้าง วงเงิน 1,980ล้านบาท และงานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง มีกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา SCS Consortium เป็นผู้รับจ้าง วงเงิน 879.98 ขณะนี้ผลงานรวมเร็วกว่าแผน 1.4%

ส่วนอีก 3 สัญญาที่เหลือ ได้แก่ งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย) (CC1/2) คาดว่าจะเริ่มงานก่อสร้างได้ในเดือน พ.ย. 2560 งานจ้างก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารทิศตะวันออก อาคารสำนักงานสายการบิน และที่จอดรถด้านทิศตะวันออก (CC2) วงเงินกว่า 4,000 ล้านบาท ล่าสุด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เจรจาขอใช้อาคารผู้โดยสารหลักเดิม ไม่ย้ายไปอาคารผู้โดยสาร 2 ทำให้ต้องปรับแบบเล็กน้อย และงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) (CC5) อยู่ระหว่างประสานกับแบบของอาคารผู้โดยสาร 2 ซึ่งคาดว่า ทั้ง 3 งานที่เหลือจะเปิดประมูลได้ในกลางปี 2560 ซึ่งการพัฒนาระยะที่ 2 จะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย. 2562 รองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก 45 ล้านคน/ปี เป็น 60 ล้านคน/ปี

นอกจากนี้ ในการพัฒนาระยะ 3 ซึ่งจะมีโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 (รันเวย์) และ Perimeter Taxiway วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาทซึ่งกำลังทำรายงานการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน (EHIA) คาดว่าจะอนุมัติในช่วง เดือน ต.ค.-พ.ย. 60 ซึ่งจะพอดีกับการศึกษาออกแบบเสร็จ ตามแผนจะก่อสร้างเสร็จในปี 2563 และโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Terminal 2) วงเงินประมาณ 34,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างขออนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2561 เมื่อแล้วเสร็จในปี 2564 จะเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเป็น 90 ล้านคน/ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น