“ทูตพาณิชย์ฮ่องกง” เผย 759 ซูเปอร์สโตร์ ยักษ์ค้าปลีกฮ่องกง เริ่มนำเข้าข้าวไทยล็อตแรก 136 ตันแล้ว หลังตกลงซื้อ 1 หมื่นตัน โดยจะนำเข้าทุกอาทิตย์จนครบ เป็นปลื้มชิงตลาดจากเวียดนามได้สำเร็จ ตั้งเป้าปีนี้ดันข้าวไทยเจาะตลาดฮ่องกงให้ได้มากกว่า 2 แสนตัน
นายวิทยากร มณีเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง เปิดเผยว่า ห้างสรรพสินค้า 759 หรือ 759 ซูเปอร์สโตร์ ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของฮ่องกง มีสาขาประมาณ 250 สาขา ได้เริ่มนำเข้าข้าวหอมมะลิและข้าวชนิดอื่นๆ จากไทย โดยนำเข้าจากบริษัท สยามไดมอนด์ เอ็กซ์ปอร์ต ประเทศไทย ล็อตแรกปริมาณ 136 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท จากปริมาณที่ทั้งสองฝ่ายได้ทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ร่วมกันตั้งแต่เดือน พ.ย. 2559 จำนวนรวมทั้งสิ้น 10,000 ตัน
“เดิมห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายนี้นำเข้าข้าวขาวจากเวียดนามมาทำตลาดในฮ่องกง แต่สำนักงานฯ ได้พยายามนำเสนอให้เห็นว่าข้าวไทยมีคุณภาพดี มีมาตรฐาน และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อีกทั้งราคาใกล้เคียงกับข้าวของเวียดนาม เขาจึงหันมานำเข้าจากไทยแทน โดยจะนำเข้าอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์จนกว่าจะครบทั้ง 10,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าราว 8 ล้านเหรียญสหรัฐ”
ทั้งนี้ นอกจากซื้อข้าวจากไทยแล้ว ห้างฯ ยังได้ทำโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ข้าวไทยติดบนรถบรรทุก โดยมีคำว่า “ส่งตรงจากเมืองไทย” เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคได้รับรู้ เพราะคนฮ่องกงส่วนมากนิยมบริโภคข้าวหอมมะลิจากไทย รวมถึงยังเป็นการยกระดับสินค้าของห้างจากเดิมที่เคยนำเข้าข้าวจากเวียดนาม แต่ปัจจุบันได้นำเข้าข้าวจากไทยทั้งหมดแล้ว โดยผู้นำเข้ารายนี้ถือเป็นลูกค้ารายใหม่ของไทย และน่าจะนำเข้าข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนลูกค้ารายเดิมก็ยังคงนำเข้าข้าวไทยอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยกว่า 90% ของการนำเข้าจากไทยเป็นข้าวหอมมะลิ
นายวิทยากรกล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนแบ่งการส่งออกข้าวไทยในตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากช่วงก่อนหน้าที่ไทยเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับเวียดนาม เพราะช่วงนั้นราคาข้าวไทยสูงมาก จนตลาดฮ่องกง โดยเฉพาะภัตตาคารและร้านอาหารไม่สามารถซื้อได้ จึงนำเข้าจากเวียดนามแทน แต่ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 48% ของปริมาณการนำเข้าข้าวทั้งหมดของฮ่องกงที่ประมาณปีละ 300,000 ตัน ส่วนปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 56% คิดเป็นปริมาณ 175,000 ตัน ปี 2559 อยู่ที่ 65% หรือกว่า 190,000 ตัน และในปี 2560 ตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นให้ได้มากกว่า 200,000 ตัน
“ปัจจุบันการทำตลาดข้าวในฮ่องกงเริ่มยากขึ้น เพราะคนฮ่องกงกินข้าวน้อยลง แต่สำนักงานฯ จะเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง ปีนี้จะเน้นการทำตลาดเจาะกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งในเดือน เม.ย.จะทำโปรโมชัน “เทรนดี้ ไทย ไรซ์” เพื่อสร้างการรับรู้ให้กลุ่มวัยรุ่นที่กินข้าวน้อยลง และใส่ใจสุขภาพ ได้รับรู้ว่ากินข้าวไทยไม่อ้วน และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง กินน้อยได้พลังงานและวิตามินมาก รวมถึงจะเน้นการทำตลาดข้าวชนิดอื่นๆ เพิ่มขึ้น ทั้งข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวกล้อง ข้าวหอมนิล เป็นต้น” นายวิทยากรกล่าว