เผยรถเมล์ NGV 291 คันยังออกจากท่าเรือไม่ได้ เหตุเบสท์รินฯ ยังไม่วางเงินภาษีนำเข้า “พิชิต” เผย ขสมก.รายงานเงินค่าภาษียังมาไม่ถึง ต้องรออีก 1-2 วัน ขณะที่ย้ำกระบวนการตรวจรับรถต้องเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญากำหนดและถูกกฎหมาย กรณีผิด TOR ที่แจ้งประกอบในมาเลเซียอยู่ที่ กก.ตรวจรับพิจารณา ยังตั้งเป้าปลาย ก.พ.ประชาชนได้นั่งรถเมล์ NGV ยอมรับปัญหารถ NGV กระทบประเมินผลงาน ผอ.ขสมก.
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ล่าสุดวันที่ 10 ม.ค.ยังไม่มีการนำรถเมล์ NGV ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ตามที่ได้มีการแจ้งก่อนหน้านี้ โดยได้รับรายงานจากนายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า ทาง บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูลรถเมล์ NGV จะนำรถจำนวน 291 คันออกจากท่าเรือแหลมฉบังได้ในวันที่ 10 มกราคม 2560 แต่สุดท้ายจะต้องรออีก 1-2 วันจึงจะนำรถ 291 คันออกจากท่าเรือได้ ซึ่งได้รับรายงานว่าเนื่องจากเงินยังมาไม่ถึงทำให้กระบวนการนำเงินไปวางเป็นค่าภาษีนำเข้าเพื่อนำรถออกยังไม่เรียบร้อย
ขณะนี้มีการนำรถเมล์ NGV ออกจากท่าเรือไปจดทะเบียนแล้ว 1 คันเท่านั้น ขณะที่อีก 98 คันที่อยู่ระหว่างการขนส่งคาดว่าจะถึงท่าเรือแหลมฉบังในวันที่ 11 ม.ค.นี้ โดยทาง ขสมก.รายงานว่าจะนำรถเมล์ NGV ออกมาวิ่งให้บริการประชาขนโดยเร็วที่สุด ซึ่งขึ้นอยู่กับกระบวนการตรวจรับรถด้วยว่าจะนานแค่ไหน โดยประเมินว่าจะให้บริการได้ในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้
นายพิชิตยืนยันว่าได้เน้นย้ำให้ ขสมก.ดำเนินการเรื่องนี้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งกระบวนการตรวจรับมีระเบียบและเงื่อนไขตามสัญญาซึ่งจะต้องมีการจดทะเบียน ตรวจสภาพรถ ทดสอบสมรรถนะว่าเป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้ทำสัญญาไว้หรือไม่ก่อน ซึ่งตามปกติ ขสมก.จะตรวจรับรถทั้ง 489 คัน แต่เมื่อการส่งมอบล่าช้าและทยอยเป็นชุดๆ ทำให้รถยังไม่ครบ กระบวนการไม่จบ ทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งมอบ นอกจากนี้ กรณีที่ส่งมอบล่าช้าจากวันที่ 29 ธ.ค. 2559 ซึ่งเบสท์ริน กรุ๊ป จะต้องถูกปรับนั้น ขณะที่มีหลักประกันซอง 330 ล้านบาทเศษหรือ 10% ของมูลค่าสัญญา (3,300 ล้านบาท) หากค่าปรับเกินวงเงินนี้ ทางเอกชนจะต้องรับผิดชอบให้ครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการตรวจรับต้องพิจารณาในประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการทำผิด TOR หรือกรณีที่เบสท์รินฯ แจ้งในเงื่อนไขว่ารถผลิตในจีน ประกอบที่โรงงานประเทศมาเลเซีย แต่มีการนำเข้ารถสำเร็จรูป ผลิตและประกอบจากจีน กรณีนี้ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหลักฐานจากกรมศุลกากรจะเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาประกอบการพิจารณาตรวจรับได้ ส่วนจะรับมอบได้หรือไม่ ผิดเงื่อนไขสัญญาหรือไม่ และเป็นสาระสำคัญหรือไม่ คงต้องมองที่วัตถุประสงค์ และหาทางออก ซึ่งเป้าหมายสำคัญคือการให้ประชาชนได้ใช้บริการรถเมล์ NGV
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นปัญหารถเมล์ NGV ซึ่ง ขสมก.ได้เปิดรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คันแล้ว กลับส่งมอบไม่ได้นั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของ ผอ.ขสมก.ไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่ นายพิชิตยอมรับว่าเกี่ยวข้อง โดยการประเมินการทำงานของ ผอ.ขสมก.จะมีคณะกรรมการ (บอร์ด) ดำเนินการพิจารณาตามเกณฑ์ที่ได้มีการตั้งไว้ จากนั้นจะรายงานให้คมนาคม ในฐานะผู้กำกับดูแลสามารถให้ความเห็นได้หากเห็นไม่ตรงกับที่บอร์ดประเมิน