ผู้จัดการรายวัน 360 - “โฮม พอตเทอรี่” ผู้ผนึกนักลงทุนนิวซีแลนด์ จัดตั้ง “เซ็นทรัล ฮอสพิทอลลิตี้” จำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับธุรกิจอาหาร ด้านกีวีดันไทยฮับอาเซียน
นายนิรันดร์ เชาว์กิตติโสภณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องใช้เซรามิกบนโต๊ะอาหารสำหรับโรงแรมและร้านอาหาร เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมโรงแรมและร้านอาหารทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตมาก จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยศูนย์วิสัยกสิกรไทยระบุว่า ตลาดร้านอาหารในประเทศไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 3.8-4 แสนล้านบาท จึงส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เซรามิกบนโต๊ะอาหารประเภทต่างๆ เพิ่มจำมากขึ้น
บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับบริษัท เซาท์เทิร์น ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด ประเทศนิวซีแลนด์ จัดตั้ง บริษัท เซ็นทรัล ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด เพื่อจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหารระดับ 3-5 ดาว โดย HPT ถือหุ้น 75% และ บริษัท เซาท์เทิร์น ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด ถือหุ้น 25% ของทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท เบื้องต้นจัดตั้งโชว์รูมบนถนนบางนา-ตราด ซอย 19 บนพื้นที่ 2.7 พัน ตร.ม. เพื่อให้บริการและจัดจำหน่ายเครื่องใช้และอุปกรณ์สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 5 พันเอสเคยูใน 24 กลุ่มผลิตภัณฑ์
น.ส.นิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT กล่าวว่า บริษัท ร่วมทุนดังกล่าว ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้แบรนด์ชั้นนำ เช่น Delta, Centro, Maestro, Cobra, Turbofa, Food Safety, Fairway, Project Stainless, Simply Stainless เป็นต้น ขณะเดียวกัน HPT ยังจะใช้โชว์รูมดังกล่าวเป็นการเปิดตลาดผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วย โดยเบื้องต้นจะเริ่มที่แบรนด์ “เพทาย” (Petye)
บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายปี 2560 ประมาณ 60 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 20-30% ต่อปีเป็นระยะเวลา 5 ปี เน้นตลาด B2B ประมาณ 80% และ B2C 20% โดยเบื้องต้นจะทำตลาดกรุงเทพฯ เป็นหลัก 90% ส่วนอีก 10% เป็นพื้นที่ต่างจังหวัด โดยมีช่องทางการจัดจำหน่าย 6 ช่องทาง คือ 1. พนักงานขาย สัดส่วน 50% ส่วนที่เหลือ 50% ประกอบด้วย 2. เว็บไซต์ 3. โทร.สั่งซื้อสินค้า 4. โทร.สั่งซื้อสินค้าทางโทรสาร 5. สั่งซื้อสินค้าทาง e-Mail และ 6. ลูกค้าสามารถมาเลือกซื้อด้วยตนเอง
นายโรเจอร์ ฟิวเทล กรรมการบริหาร บริษัท เซาท์เทิร์น ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด ประเทศนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ HPT ครั้งนี้ถือเป็นการขยายการลงทุนนอกกลุ่มประเทศนิวซีแลนด์ครั้งแรกจากปัจจุบันที่มีสาขาทั้งสิ้น 18 แห่ง แบ่งเป็นนิวซีแลนด์ 15 แห่ง และออสเตรเลีย 3 แห่ง เนื่องจากเห็นโอกาสการเติบโตทางการตลาดของประเทศไทยและศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีแนวโน้มความต้องใช้งานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากจำนวนประชากรที่มีสัดส่วนถึง 10% ของโลก
โอกาสการเติบโตทางการตลาดของประเทศไทยที่เห็นได้ชัดคือจำนวนประชากรที่มีความได้เปรียบกว่านิวซีแลนด์ที่มีเพียง 4 ล้านคนทั่วประเทศ แต่ในกรุงเทพฯ มีมากกว่า12 ล้านคน และ 67 ล้านคนทั่วประเทศ ทั้งยังถือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนที่มีชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้จึงมีเป้าหมายให้บริษัท เซ็นทรัล ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด เป็นศูนย์กลางหลักของภูมิภาคอาเซียน
นายนิรันดร์ เชาว์กิตติโสภณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องใช้เซรามิกบนโต๊ะอาหารสำหรับโรงแรมและร้านอาหาร เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมโรงแรมและร้านอาหารทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตมาก จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยศูนย์วิสัยกสิกรไทยระบุว่า ตลาดร้านอาหารในประเทศไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 3.8-4 แสนล้านบาท จึงส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เซรามิกบนโต๊ะอาหารประเภทต่างๆ เพิ่มจำมากขึ้น
บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับบริษัท เซาท์เทิร์น ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด ประเทศนิวซีแลนด์ จัดตั้ง บริษัท เซ็นทรัล ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด เพื่อจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหารระดับ 3-5 ดาว โดย HPT ถือหุ้น 75% และ บริษัท เซาท์เทิร์น ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด ถือหุ้น 25% ของทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท เบื้องต้นจัดตั้งโชว์รูมบนถนนบางนา-ตราด ซอย 19 บนพื้นที่ 2.7 พัน ตร.ม. เพื่อให้บริการและจัดจำหน่ายเครื่องใช้และอุปกรณ์สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 5 พันเอสเคยูใน 24 กลุ่มผลิตภัณฑ์
น.ส.นิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT กล่าวว่า บริษัท ร่วมทุนดังกล่าว ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้แบรนด์ชั้นนำ เช่น Delta, Centro, Maestro, Cobra, Turbofa, Food Safety, Fairway, Project Stainless, Simply Stainless เป็นต้น ขณะเดียวกัน HPT ยังจะใช้โชว์รูมดังกล่าวเป็นการเปิดตลาดผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วย โดยเบื้องต้นจะเริ่มที่แบรนด์ “เพทาย” (Petye)
บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายปี 2560 ประมาณ 60 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 20-30% ต่อปีเป็นระยะเวลา 5 ปี เน้นตลาด B2B ประมาณ 80% และ B2C 20% โดยเบื้องต้นจะทำตลาดกรุงเทพฯ เป็นหลัก 90% ส่วนอีก 10% เป็นพื้นที่ต่างจังหวัด โดยมีช่องทางการจัดจำหน่าย 6 ช่องทาง คือ 1. พนักงานขาย สัดส่วน 50% ส่วนที่เหลือ 50% ประกอบด้วย 2. เว็บไซต์ 3. โทร.สั่งซื้อสินค้า 4. โทร.สั่งซื้อสินค้าทางโทรสาร 5. สั่งซื้อสินค้าทาง e-Mail และ 6. ลูกค้าสามารถมาเลือกซื้อด้วยตนเอง
นายโรเจอร์ ฟิวเทล กรรมการบริหาร บริษัท เซาท์เทิร์น ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด ประเทศนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ HPT ครั้งนี้ถือเป็นการขยายการลงทุนนอกกลุ่มประเทศนิวซีแลนด์ครั้งแรกจากปัจจุบันที่มีสาขาทั้งสิ้น 18 แห่ง แบ่งเป็นนิวซีแลนด์ 15 แห่ง และออสเตรเลีย 3 แห่ง เนื่องจากเห็นโอกาสการเติบโตทางการตลาดของประเทศไทยและศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีแนวโน้มความต้องใช้งานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากจำนวนประชากรที่มีสัดส่วนถึง 10% ของโลก
โอกาสการเติบโตทางการตลาดของประเทศไทยที่เห็นได้ชัดคือจำนวนประชากรที่มีความได้เปรียบกว่านิวซีแลนด์ที่มีเพียง 4 ล้านคนทั่วประเทศ แต่ในกรุงเทพฯ มีมากกว่า12 ล้านคน และ 67 ล้านคนทั่วประเทศ ทั้งยังถือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนที่มีชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้จึงมีเป้าหมายให้บริษัท เซ็นทรัล ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด เป็นศูนย์กลางหลักของภูมิภาคอาเซียน