อุตฯ รองเท้าปีนี้คาดจะโต 0% จากยอดขายทั้งในและต่างประเทศที่ไม่กระเตื้อง เผยยอดขายในประเทศหายไปกว่า 50% จากการย้ายฐานไปเวียดนามของรายใหญ่ต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปี จับตาเอสเอ็มอีอาการหนักต่อเนื่อง แนวโน้มปี 2560 ยังประเมินได้ยาก
นายธำรง ธิติประเสริฐ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คาดว่าอุตสาหกรรมรองเท้าปี 2559 จะเติบโตระดับ 0% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับภาวะการส่งออกที่อุตสาหกรรมรองเท้าไทยต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่สูง และส่วนหนึ่งเกิดจากการมีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านในช่วงที่ผ่านมา โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) หากไม่ปรับตัวก็จะอยู่ยาก
“เวลานี้จีนเป็นเบอร์ 1 และเวียดนามเป็นเบอร์ 2 โรงงานขนาดใหญ่ส่วนหนึ่งมีการย้ายไปลงทุนเวียดนามในช่วง 2-3 ปีต่อเนื่องคงไม่ต้องห่วงมากและมีการปรับตัวได้พอสมควร แต่เอสเอ็มอียอมรับว่าขณะนี้ลำบากมากในการแข่งขันกับจีน ซึ่งข้อเท็จจริงต้นทุนการผลิตจากจีนไม่ได้ถูกกว่าแต่เขาได้ในแง่ของวอลุ่มที่ใหญ่ผลิตเยอะแล้วต้นทุนต่ำทำให้สามารถนำบางส่วนมาขายตัดลดราคาได้ หากไม่ปรับตัวไปสู่สินค้าที่เป็นระดับสูงจะอยู่ยาก” นายธำรงกล่าว
สำหรับแนวโน้มในปี 2560 คาดหวังว่าจะมีการเติบโตขึ้น โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่จะเป็นด้านบวก ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่น่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว รวมถึงแรงซื้อในไทยที่คาดว่าจะดีกว่าปีนี้จากระดับราคาสินค้าเกษตรที่เริ่มปรับตัวสูงตามทิศทางน้ำมัน และปัจจัยเรื่องของความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPP หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีใหม่สหรัฐฯ มีการยกเลิกจริงจะเป็นผลดีสำหรับไทย เพราะก่อนหน้านี้ที่เวียดนามได้เข้าร่วม TPP มีส่วนสำคัญในการดึงการลงทุนเข้าไปยังเวียดนามมากขึ้นเพราะเวียดนามจะได้รับการยกเว้นภาษีในการส่งออกรองเท้าไปยังตลาดสหรัฐฯ
นายชนินทร์ จิตโกมุท นายกสมาคมรองเท้าไทย กล่าวว่า ปีนี้อุตสาหกรรมรองเท้าคงจะโต 0% เมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากยอดขายทั้งในและต่างประเทศไม่ดีนักยังคงซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจ ส่วนในปี 2560 ยังคงประเมินว่าทิศทางจะไม่ได้ต่างจากปีนี้มากนักเนื่องจากต้องยอมรับว่าไทยได้สูญเสียฐานการผลิตรองเท้าไปแล้ว
“ยอดขายรองเท้าในประเทศปีนี้ลดลงไปกว่า 50% จากกำลังแรงซื้อที่ลดต่ำ และอีกส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนจีนที่ลดลงจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งเราเองเห็นด้วยแต่ควรจะค่อยๆ ทำเป็นเรื่องๆ ไปซึ่ง ที่ผ่านมาคนจีนถือว่ามีการซื้อสินค้าแฟชั่นค่อนข้างมากในไทยจึงได้รับผลกระทบพอสมควร ขณะเดียวกัน กลุ่มรองเท้ากีฬายอดส่งออกหายไป 90% เพราะโรงงานรับจ้างผลิตขนาดใหญ่ของไทยปิดกิจการเพราะแข่งเวียดนามไม่ได้” นายชนินทร์กล่าว
ปัจจุบันอุตสาหกรรมเครื่องหนัง รองเท้า กระเป๋า มีมูลค่าการส่งออกประมาณปีละ 20,000 กว่าล้านบาท หากแยกเฉพาะอุตสาหกรรมรองเท้ามียอดส่งออกเฉลี่ยเพียงกว่า 5,000 ล้านบาทเท่านั้น โดยยอดการส่งออกมีการลดลงต่อเนื่องจากการแข่งขันที่สู้ไม่ได้ และนโยบายรัฐก็ไม่ชัดเจนในการส่งเสริมอุตสาหกรรมแฟชั่นทำให้ภาคการผลิตลำบาก ขณะที่ผู้นำเข้าสินค้าจากจีนมาจำหน่ายจะอยู่ได้ดีกว่า