บีซีพีจีจ่อซื้อโรงไฟฟ้าพลังลมในต่างประเทศไม่เกิน 100 เมกะวัตต์ ระบุเป็นโครงการที่จ่ายไฟแล้วทำให้บริษัทรับรู้รายได้ทันทีในปีหน้า ตั้งเป้า EBITDA ปี 60 โตขึ้นกว่า 20% จากปีนี้ที่ 2.6 พันล้านบาท
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากิจการโรงไฟฟ้าพลังลมในต่างประเทศ ขนาดไม่เกิน 100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะประกาศได้ในเดือนธันวาคมนี้ ทำให้บริษัทฯ จะถือหุ้นใหญ่ในโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมที่ดำเนินการผลิตอยู่แล้ว ทำให้ในปี 2560 บริษัทจะรับรู้รายได้ทันที
นอกจากนี้ ในปี 2560 บริษัทยังรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์อีก 12เมกะวัตต์ในไทย ที่คาดว่าจะจ่ายไฟ (COD) ในปลายปีนี้ และโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นซึ่งจะ COD เพิ่มเติมอีก 30-40 เมกะวัตต์ตามแผนงานที่กำหนดไว้ จากปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟแล้ว 13.2 เมกะวัตต์ ทำให้ปี 2560 บริษัทฯ คาดว่าจะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) โตขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% จากปีนี้ที่มี EBITDA ประมาณ 2,600 ล้านบาท
นายบัณฑิตกล่าวต่อไปว่า ในปี 2560 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 5,000-10,000 ล้านบาทเพื่อใช้ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นตามแผนงานที่วางไว้ รวมทั้งมองโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานใต้พิภพ โรงไฟฟ้าชีวมวลและชีวภาพ รวมถึงโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ ซึ่งในปีหน้าจะเห็นการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานอื่นๆ เพิ่มเติม
จากเป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าให้ครบ 1,000 เมกะวัตต์ในปี 2563 จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 418 เมกะวัตต์ ดังนั้นบริษัทฯ มองหาโอกาสจับมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้จำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ (Supplier) เพื่อบริหารต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง เนื่องจากขนาดโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดเป็นสิ่งจำเป็นต้องแข่งขันกับโรงไฟฟ้าพื้นฐานได้